พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวข้องกับคดีข่มขืนอนาจารหญิงหลายราย จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจาก ประชาชนจับตาคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยไม่มีอะไรน่าหนักใจ ถึงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมือง หรือเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานาน อาจกระทบต่อการสืบหาพยานหลักฐาน ซึ่งตำรวจก็จะมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีนายตำรวจยศพันเอกคนสนิทของนายปริญญ์ นำเงินจำนวนหนึ่งไปจ่ายให้ผู้เสียหาย เพื่อขอยอมความ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันปัจจุบันยังไม่มีผู้เสียหายรายใด มาถอนคำร้องทุกข์
ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ นายปริญญ์ เพิ่มอีก 2 คน ในข้อหากระทำอนาจาร นับเป็นรายที่ 6 และ 7 ในคดีนี้ โดยรายที่ 6 อายุ 26 ปี อาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว ระบุว่าถูกข่มขืน ซึ่งนายษิทรา บอกว่า ตอนแรกผู้เสียหายรายนี้ตั้งใจจะมาในฐานะพยาน โดยจะยื่นหลักฐานเป็นคลิปเสียงและหลักฐานบทสนทนาเท่านั้น จะไม่แจ้งความนายปริญญ์ เนื่องจากมีการรับสิ่งตอบแทนมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่จากการเข้าให้ปากคำ พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ ตำรวจจึงเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายปริญญ์เองตามกฎหมาย
ส่วนผู้เสียหาย รายที่ 7 ให้ข้อมูลว่า โดนลวนลามบนรถ ทั้งจับมือ แขน และขา พร้อมพูดจาแทะโลมส่อไปในเรื่องเพศ โดยระบุว่าเหตุเกิดเมื่อปี 2562 ช่วงที่เป็นนักศึกษาฝึกงาน โดยแจ้งความนายปริญญ์ ในข้อหากระทำอนาจารฯ
#ล่วงละเมิด
#นักการเมือง