ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค(CDC)ของสหรัฐฯเพิ่มอีก 4 ประเทศได้แก่ ภูฎาน บรูไน อิหร่านและมาเลเซียในรายชื่อพื้นที่เสี่ยงสูงสุด หรือพื้นที่เสี่ยงระดับที่ 4 (very high risk)ประจำสัปดาห์นี้จากพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด 4 ระดับ ทำให้ในปัจจุบัน มีกว่า 140 ประเทศ/ดินแดนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงสุด บ่งชี้ว่า ไวรัสโอไมครอนระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกในปีนี้ เทียบจาก 80 ประเทศในเดือนมกราคม พร้อมทั้งเตือนชาวอเมริกันให้เลี่ยงเดินทาง
แต่ในกรณีมีความจำเป็นต้องเดินทาง CDC แนะนำเฉพาะคนที่รับวัคซีนครบโดส หรือรับวัคซีนบูสเตอร์แล้วเดินทางได้ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาเดินทางและเลี่ยงการไปยังสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เพื่อความปลอดภัย
สำหรับหลักเกณฑ์ของ CDC ในการกำหนดให้ประเทศ/ดินแดนใดเป็นพื้นที่เสี่ยงระดับที่ 4 คือ มีผู้ป่วยใหม่กว่า 500 คนต่อประชากร 100,000 คนในรอบ 28 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาเลเซีย ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกในปี 2563 เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวอเมริกัน เนื่องจากมีชายหาดที่สวยงาม อาหารอร่อย มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม ผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตท้องถิ่นกับการพัฒนากรุงกัวลาลัมเปอร์ให้มีความทันสมัย
ขณะเดียวกัน CDC ได้เพิ่มอีก 3 ประเทศเข้ามาในรายชื่อพื้นที่เสี่ยงระดับที่ 3 หรือเสี่ยงสูง(high risk)ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ นามิเบีย นิวซีแลนด์ และติมอร์-เลสเต มีหลักเกณฑ์คือ มีผู้ป่วยใหม่ระหว่าง 100-500 คนต่อประชากร 100,000 คนในรอบ 28 วันที่ผ่านมา ในปัจจุบัน มี 47 ประเทศ/ดินแดนอยู่ในกลุ่มนี้ รวมทั้งประเทศไทย
สำหรับพื้นที่เสี่ยงระดับที่ 2 เสี่ยงปานกลาง(moderate risk) มีหลักเกณฑ์คือ มีผู้ป่วยใหม่ 50-99 คนต่อประชากร 100,000 คนในรอบ 28 วันที่ผ่านมา ในรอบสัปดาห์นี้ CDC เพิ่มเพียงประเทศเดียวเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ เคนยา ส่วนพื้นที่เสี่ยงระดับที่ 1 เสี่ยงต่ำ (low risk)ไม่มีการเพิ่มเติมประเทศ/ดินแดนเข้ามาในกลุ่มนี้ สำหรับประเทศที่อยู่พื้นที่เสี่ยงระดับที่ 1 มี 5 ประเทศ เช่น ประเทศจีน
#สหรัฐฯ
#เตือนภัยโควิดทั่วโลก