ทางการของหลายประเทศในเอเชียต่างเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน เพื่อไปพบกับครอบครัวและฉลองเนื่องในวันขึ้นปีใหม่จีน เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว
-ทางการจีน กำลังพยายามหาทางป้องกันไม่ให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนเปิดฉากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 4 ก.พ.65 ขณะที่ ทางการท้องถิ่นหลายแห่งของจีน ใช้แนวทางให้รางวัลและกำหนดบทลงโทษเพื่อจูงใจให้ประชาชนไม่เดินทางในช่วงตรุษจีน เช่น การแจกบัตรกำนัลและเงินสด ส่วนผู้ที่เดินทางจะต้องกักตัวในสถานกักตัวของทางการหรือในบ้านเป็นเวลาสูงสุดถึง 14 วัน ด้านโรงเรียนและบริษัทของทางการจีน ไม่สนับสนุนให้พนักงานเดินทางในช่วงตรุษจีน
-ขณะเดียวกัน ทางการฮ่องกง ประกาศยกเลิกจัดงานฉลองเทศกาลตรุษจีนประจำปี สั่งปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนเร็วกว่าปกติ และประกาศให้หลายพื้นที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในประชาชน นอกจากนี้ ยังประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านหลังเวลา 18.00 น. และสั่งปิดร้านเสริมสวย โรงออกกำลังกาย โรงภาพยนตร์ และบาร์
-ทางการกรุงฮานอย ของเวียดนาม สั่งยกเลิกการจุดพลุประจำปีเพื่อฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวเวียดนามในช่วงนี้เช่นกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิดในกลุ่มฝูงชนขนาดใหญ่ แต่ทางการท้องถิ่นได้ตัดสินใจในเวลาต่อมาโดยปรับเปลี่ยนมาตรการให้ประชาชนได้ฉลองวันขึ้นปีใหม่ร่วมกับครอบครัวได้ง่ายขึ้น หลังเวียดนาม ผ่านพ้นการระบาดมาแล้วสี่ครั้งและมีประชาชนวัยผู้ใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดสูงกว่าร้อยละ 90
-ด้านนายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ กล่าวว่า การเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงตรุษจีนไม่ต่างกับการราดน้ำมันเข้ากองไฟ ขณะที่ ทางการเกาหลีใต้ ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 6 คน และสั่งปิดร้านอาหารหรือคาเฟ่หลังเวลา 21.00 น.
-ทางการกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ สั่งห้ามการแสดงเชิดสิงโต การจุดพลุ และการรวมตัวกันที่ย่านชุมชนชาวจีนเก่าแก่ เนื่องจาก หวั่นเกรงเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19
-ส่วนทางการมาเลเซีย ไม่อนุญาตให้ประชาชนเปิดบ้านต้อนรับผู้มาเยือนในช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างเต็มที่ แต่ยอมให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำได้
#ตรุษจีนเอเชีย