หลังกระทรวงสาธารณสุขยกระดับแจ้งเตือนภัยสาธารณสุข เดิมจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ ที่ สธ.ออกเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโรค และไม่เป็นภาระกับบุคลากรทางการแพทย์เหมือนในอดีต
โดยวันนี้ (6 มกราคม ) พบจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมาก 5,775 คน เสียชีวิต 11 ราย ซึ่งการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นผลมาจากเทศกาลปีใหม่ และต้องอีก 7-10 วันก็จะค่อยๆ ปรากฏจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม จะเห็นได้ว่าจำนวนติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแต่ผู้เสียชีวิตไม่ถึง 20 ราย ก็เป็นผลมาจากการรับวัคซีน เพราะส่วนใหญ่ของผู้ป่วยครั้งนี้ไม่แสดงอาการ
ส่วนการปิดกิจกรรมและกิจการอะไรบางนั้นยังต้องรอดูสถานการณ์ แต่คงเป็นเรื่องการจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือของมึนเมา เพราะเป็นปัจจัยหลักของการแพร่เชื้อ ส่วนหากสถานการณ์เลวร้ายต้อง ‘ล็อกดาวน์’ หรือไม่ ก็ยังตอบไม่ได้เช่นกัน แต่มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข ทำไปเพื่อคุ้มครองชีวิตประชาชน เพราะไม่มีอะไรมีค่าและสำคัญกว่าชีวิต
โดยการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจะมุ่งใช้ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) เป็นหลัก เพื่อให้เหลือเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรืออาการหนัก
ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายกังวล คือ การเข้าประเทศ ผ่านระบบ Test & Go ที่จะขยายการรับนักท่องเที่ยวที่ตกค้างจากเดิมเดทไลน์ว่า ต้องเข้ามาภายในวันที่ 10 มกราคม ก็จะขยายเป็นวันที่ 15 มกราคมนี้ เพื่อระบายนักท่องเที่ยวที่ค้างในระบบ แต่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีการซื้อประกันไว้ตรงตามที่เอกสารแสดง เพราะที่ผ่านมาพบนักท่องเที่ยวป่วยและยอมอยู่ในระบบ อีกทั้งซื้อประกันไม่ครอบคลุม มีการสำแดงใบประกันสุขภาพปลอม
ดังนั้น ต่อไปการเดินทางเข้ามาต้องมาในระบบ Sandbox และ Quarantine เท่านั้น ซึ่งก็ได้มีการขยายเพิ่ม Sandbox ในพื้นที่อื่นเพื่อไม่ให้ภูเก็ตรับผิดชอบหนักแค่จังหวัดเดียว ได้แก่
1. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า)
2. จังหวัดชลบุรี (เกาะล้าน)
3. จังหวัดระยอง (เกาะเสม็ด)
4. จังหวัดตราด (เกาะช้าง และเกาะกูด)
5. จังหวัดพังงา (เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ไม่รวมเขาหลัก)
6. จังหวัดกระบี่ (เช่น เกาะพีพี)
ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.ประเทศไทยได้เตือนภัยโควิดระดับ 3 จากปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อจากต่างประเทศ และพบคลัสเตอร์บางส่วนจากร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ตลอดจนการร่วมกิจกรรมทางศาสนา
โดยการแจ้งเตือนโควิดระดับ 3 มาตรการหลัก คือ ประชาชนทุกคนงดเข้าสถานบันเทิง ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ และผู้รับวัคซีนไม่ครบ เลี่ยงร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มจำนวนมาก เลี่ยงโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท งดไปต่างประเทศ คนทั่วไปเลี่ยงเดินทางไปต่างประเทศ เข้าประเทศแบบกักตัว
ส่วนการเตือนภัยโควิดระดับ 4 จะมีการยกระดับมาตรการสำคัญ ดังนี้
1.ประชาชนทุกคนงดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในร้าน
2.ประชาชนทุกคนงดเข้าสถานที่เสี่ยงทุกประเภท
3.งดการสัมผัสกับบุคคลภายนอก
4.เลี่ยงการร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
5.งดโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท
6.งดไปต่างประเทศ หากเข้าประเทศต้องกักตัว
นอกจากนี้ สธ.ยังมีคำแนะนำให้ประชาชน work from home และอาจมีการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด รวมไปถึงงดการเดินทางข้ามจังหวัดโดยไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้เชื้อโควิดกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ
อย่างไรก็ดี สำหรับการเตือนภัยโควิดระดับที่ 5 จะมีมาตรการเข้มงวดสูงสุด โดยประชาชนทุกคนงดออกนอกบ้าน แต่จะสามารถออกไปได้ในกรณีจำเป็นเพื่อการดำรงชีวิต เช่น ตรวจ รักษา ซื้ออาหาร ของใช้ เป็นต้น งดรวมกลุ่มมากกว่า 5 คน งดใกล้ชิดกันในบ้าน (ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน) งดออกนอกบ้าน หากจำเป็นให้ใช้รถส่วนตัวและคัดกรอง ห้ามไปต่างประเทศ และเข้าประเทศกักตัว
#โควิด19
#ทำงานที่บ้าน