มติ ศบค.ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 2 เดือน ยกเลิกจังหวัดสีแดงเข้ม-เคอร์ฟิว

26 พฤศจิกายน 2564, 12:37น.


          ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 19/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน



         นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 15) ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 2 เดือน หรือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565



          นอกจากนี้ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้



-พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 6 จังหวัด ปรับเป็น 0 จังหวัด ทั้งนี้ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว)



-พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 39 จังหวัด ปรับเป็น 23 จังหวัด



-พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 23 จังหวัด 



-พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 5 จังหวัด ปรับเป็น 24 จังหวัด



-พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ไม่มี 



-พื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) 4 จังหวัด ปรับเป็น 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และภูเก็ต





 



      



 



 







 



 



         ส่วนมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับกิจการสถานบันเทิง ในที่ประชุมให้เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 แต่ให้พิจารณาเปิดให้เมื่อมีความพร้อม โดยต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 



           งดกิจกรรม ดังนี้ งดให้บริการคาราโอเกะ งดจัดพื้นที่เต้นรำส่วนกลาง งดบริการเครื่องดื่มที่มีการใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การให้บริการ หรือ กิจกรรมที่มีการคลุกคลี และสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้า



          ทั้งนี้ หากไม่มีการระบาดจากสถานบันเทิงให้เปิดดำเนินการต่อได้ หากมีการระบาดจากสถานบันเทิงพิจารณาปิดดำเนินการควบคุมการระบาด และหากเกิดการระบาด หรือ ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ให้พิจารณาปิดดำเนินการและกำหนดบทลงโทษ





         ที่ประชุมใช้เวลาพิจารณาเรื่องนี้พอสมควร เนื่องจากมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบยื่นเรื่องขอให้มีการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงให้เร็วขึ้น เลขาฯสมช. ได้นำข้อเสนอมาพิจารณา มีการประชุมคณะกรรมการชุดต่างๆ และนำเรื่องเสนอให้ที่ประชุมศปก.ศบค.หลายรอบ สรุปว่า สถานบันเทิงยังมีความเสี่ยง ถ้าจะเปิด มีปัญหาหลายเรื่อง ขอให้ดำเนินการให้พร้อมก่อนและจะพิจารณาเป็นระยะ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเห็นใจคนทำงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการหรือคนที่ทำงานให้ความร่วมมือเต็มที่อาจจะเร็วกว่าวันที่ 16 มกราคม 2565 ก็ได้ 


ที่ประชุมสรุปปัญหาที่พบในสถานบันเทิง


1.ปัญหาการถ่ายเทอากาศ


2.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องถอดหน้ากากอนามัย จะทำให้เกิดละอองฝอย


3.ระยะเวลาอยู่ในสถานที่นานกว่าปกติหลายชั่วโมง 


         ปัญหาต่างๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจเกี่ยวกับมาตรการส่วนบุคคล การติดเชื้อครั้งก่อนเมื่อปีที่แล้วเกิดจากสถานบันเทิง ทำให้ไม่ได้ฉลองปีใหม่ ในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอให้เห็นควรดำเนินการตามแผนเดิม 


         ส่วนเรื่องการเปิดประเทศปรับมาตรการเพิ่มเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยการเพิ่มช่องทางการเดินทางเข้ามาทางเรือและทางบก ในส่วนทางบกจะเริ่มนำร่องที่ด่านหนองคายเริ่ม 24 ธ.ค.64 และเมื่อเดินทางมาถึงให้ปรับการตรวจหาเชื้อจาก RT-PCR เป็นการตรวจ ATK และสามารถเดินทางต่อได้  การปรับมาตรการดังกล่าว เนื่องจาก หลังจากเปิดประเทศพบว่านักท่องเที่ยวติดเชื้อน้อยมาก จากการรวมการเดินทางเข้ามาทุกช่องทางพบติดเชื้อ 0.13% หากพิจารณาเฉพาะช่องทางที่เข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว ติดเชื้อ 0.08%  




 


         


 


 




 




 


         กรณีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย กระทรวงแรงงาน สรุปว่า ต้องการแรงงาน 424,703 คน และได้ประสานกับประเทศต้นทางแล้วทั้งเมียนมา ลาว และ กัมพูชา และได้เปิดพื้นที่กักตัว ที่จ.ตาก ระนอง หนองคาย มุกดาหาร และ สระแก้ว ขอผู้ประกอบการอย่าทำผิดกฎหมายในการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย


 




 


#โควิด19



#มติศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

ข่าวทั้งหมด

X