สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอจัดส่งยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ให้แก่คณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาคุณสมบัติว่าเข้าเกณฑ์ใช้เป็นยารักษาโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯเป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ (11 ต.ค.) เมอร์คได้ยื่นเรื่องต่อเอฟดีเอเพื่อขออนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉิน
หากคณะกรรมการที่ปรึกษาของเอฟดีเอมีความเห็นให้อนุมัติใช้ยาเป็นกรณีฉุกเฉิน ทางเอฟดีเอก็จะมีการอนุมัติอย่างเป็นทางการต่อไป เหมือนกับในกรณีที่คณะกรรมการที่ปรึกษามีความเห็นชอบให้ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
เมอร์คระบุว่า ยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา และสามารถลดความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงขึ้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 50 และจะกลายเป็นยาเม็ดชนิดแรกในตลาดหากเอฟดีเออนุมัติให้ใช้สำหรับการรักษาโรคโควิด-19 อย่างเป็นทางการ
โดยขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จำนวน 1 ล้าน 7 แสนคอร์ส หรือ 68 ล้านเม็ด วงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์ เฉลี่ยราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์ (ประมาณ 24,000 บาท เฉลี่ยเม็ดละ 600 บาท) โดยยา 1 คอร์สประกอบด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้งๆละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน
ขณะเดียวกันเมอร์คเตรียมเพิ่มการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ขึ้นเป็น 2 เท่าในปีหน้าจากระดับ 10 ล้านคอร์สในปีนี้เป็น 20 ล้านคอร์สในปีหน้า โดยมีหลายประเทศทั่วโลกเริ่มการเจรจาเพื่อสั่งซื้อยาแล้ว แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมอร์คตั้งราคายาโมลนูพิราเวียร์ที่เรียกเก็บจากรัฐบาลสหรัฐสูงกว่าต้นทุนการผลิตถึง 40 เท่า โดยเมอร์คมีต้นทุนผลิตยาที่ 17.74 ดอลลาร์ (ประมาณ 600 บาท) ต่อ 1 คอร์สแต่ตั้งราคาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ถึงคอร์สละ 700 ดอลลาร์ โดยในช่วงเริ่มแรก รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้ให้เงินทุนสนับสนุนแก่บริษัทเอกชนและหน่วยงานหลายแห่งเพื่อผลิตยาโมลนูพิราเวียร์สำหรับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ในเดือนพฤษภาคม 2563 เมอร์คได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายยาโมลนูพิราเวียร์แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เมอร์คชี้แจงว่า การตั้งราคายาเป็นไปตามการอ้างอิงจากการจัดแบ่งกลุ่มประเทศต่างๆตามเกณฑ์รายได้ของธนาคารโลก เพื่อรับประกันการเข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์อย่างเท่าเทียมกัน และมีการทำข้อตกลงกับบริษัทยาอย่างน้อย 8 แห่งในอินเดียเพื่อผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในราคาถูกสำหรับการจำหน่ายในอินเดียและกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางจำนวนมากกว่า 100 ประเทศ
....
#โควิด19
#ยาโควิด19
#โมลนูพิราเวียร์