ทีมเศรษฐกิจ ปชป.ยื่น 7 ข้อเรียกร้อง คลายล็อกช่วยผู้ประกอบการฟิตเนส

10 กันยายน 2564, 13:24น.


          นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส. สมุทรสงคราม ปชป. และนายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส. สุราษฎร์ธานี ปชป.นำกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการสถานออกกำลังกายและผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายยื่นหนังสือเรียกร้องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา และถึงพรรคประชาธิปัตย์เพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19



         นายปริญญ์ กล่าวว่า การที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) สั่งปิดกิจการสถานออกกำลังกายและฟิตเนส ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 3 รอบ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ ลูกจ้างประจำ กลุ่มอาชีพอิสระ รวมถึง คนออกกำลังกายทั้งหมด ซึ่งการคลายล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้ ทำให้คนจำนวนมากตกงาน และสร้างความเสียหายต่อมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ผู้ฝึกสอนออกกำลังกายบางคนสามารถปรับไปสอนออนไลน์แต่รายได้โดยรวมของกลุ่มอาชีพและธุรกิจฟิตเนสลดลงอย่างมากแต่ค่าใช้จ่ายยังคงอยู่  อีกทั้งการส่งเสริมการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะสร้างภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19





         ความเดือดร้อนดังกล่าวของประชาชนไม่สามารถรอได้อีกต่อไป รัฐบาลควรเร่งพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการภาครัฐแต่กลับได้รับผลกระทบเชิงลบหนัก และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พร้อมรับการเปิดประเทศที่จะถึงนี้



          นายปริญญ์ เสนอให้มีการเรียกร้องและเสนอแนวทางคลายล็อกอย่างสร้างสรรค์ และไม่คิดว่าควรจะมีการฟ้องร้องเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาและการออกกำลังกายระยะยาว





         ด้านนายธันย์ปวัฒน์ เตขภูวดลวิทิต ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการสถานออกกําลังกายและผู้ฝึกสอนการออกกําลังกาย กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจได้ใคร่ครวญพิจารณาถึงมาตรการต่างๆ ตามข้อเสนอ ดังนี้



1. ยกเลิกคำสั่งปิดสถานออกกำลังกายและฟิตเนสแบบเหมารวม โดยให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเป็นระยะ 14 วัน สถานประกอบการที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อต้องทำความสะอาดร้านตามมาตรฐานที่กรมอนามัยและกรมควบคุมโรควางไว้ และให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาตรวจเช็คก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกับ ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร



2. ขอให้มีคำสั่งให้สถานออกกำลังกายและฟิตเนสได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของศบค. อย่างเคร่งครัด เช่น ควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการ มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิพนักงานและมีการใช้ชุดตรวจ ATK มาคัดกรองผู้ใช้บริการทุกคน ผู้ใช้บริการต้องโชว์เอกสารการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มหรือมีผลตรวจเชื้อที่เป็นผลลบถึงจะเข้าใช้บริการ ได้พนักงานและผู้ประกอบการจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีผลการตรวจเป็นลบทั้งหมดก่อนการเปิดให้บริการ จัดให้มีบริการเจลแอลกฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ เป็นต้น



3. พิจารณาจัดสรรฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดให้กับผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และ/หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนส 



4. พิจารณาให้มีนโนบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา การพักชำระหนี้ และ/หรือ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจและรักษาการจ้างงานพนักงาน จากการปิดธุรกิจชั่วคราว



5. เปิดช่องทางสื่อสารเพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ทราบถึงมุมมอง ผลกระทบ ความยากลำบากของผู้มีอาชีพในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ก่อนที่ทางรัฐจะออกคำสั่ง



6. พิจารณานโยบายเรื่องภาษีส่วนบุคคล ในส่วนของการสมัครสมาชิก สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างน้อย 2-3 เท่า



7. พิจารณาการเปิดให้บริการสถานออกกำลังกาย ตามความพร้อมของผู้ประกอบการเป็นรายๆไป โดยต้องไม่ผิดกฎหรือข้อกำหนดในการดำเนินกิจการจากการออกคำสั่งจากทางภาครัฐ



 



#ทีมเศรษฐกิจ



#พรรคประชาธิปัตย์



#เสนอรัฐบาลเปิดฟิตเนส

ข่าวทั้งหมด

X