ฝนตกต่อเนื่อง แม่น้ำเมยล้นตลิ่ง ท่วมตลาดริมเมย แม่สอด จ.ตาก
หลังฝนตกหนักตลอดพื้นที่ 5 อำเภอแนวชายแดนจังหวัดตากต่อเนื่องทำให้แม่น้ำเมย แนวพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่งบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 1 บ้านริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วม 1 เมตร ทั้งยังเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระแสน้ำเมยไหลทะลักเข้าท่วมเกาะกลางแม่น้ำเมยหรือที่เรียกกันว่าเกาะโนแมนแลนด์ จนมิดเกาะ ทำให้คนต่างด้าวจำนวนนับร้อยคนที่ยึดเกาะแห่งนี้เป็นที่พักอาศัยต้องว่ายน้ำหนีตายมารวมกันที่ขอบรั้วชายแดนฝั่งอำเภอแม่สอด และอีกหลายๆคนสามารถขึ้นเรือหางยาวข้ามหนีตายจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากกลับไปยังจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ได้สำเร็จ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเข้าเฝ้าป้องกันแนวชายแดนแม่สอดอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันคนต่างด้าวที่อาจจะติดเชื้อโควิดหนีข้ามฝั่งขึ้นมายังเขตอำเภอแม่สอดจากสถานการณ์น้ำท่วมสองฝั่งประเทศ
ขณะที่ ตลาดริมเมยซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญติดแนวแม่น้ำเมย ถูกน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตรเศษ กำลังทหารและ อส.อำเภอแม่สอดพร้อมพ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดริมเมย ต้องช่วยกันระดมกำลังรีบช่วยกันขนย้ายสิ่งของของมีค่าที่เก็บไว้ภายในซุ้มขายของที่กำลังจะจมน้ำ แต่การขนย้ายสิ่งของเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจาก ระดับน้ำไหลแรงและสิ่งของมีจำนวนมากและต้องทำการรีบขนย้ายสิ่งของแข่งกับเวลาหลังปริมาณน้ำยังคงเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่องทุกชั่วโมงและยังประสบปัญหาน้ำในลำห้วยสาขาต่างๆในอำเภอแม่สอดหนุนเพิ่มจากฝนตกหนักจนทำให้สถานการณ์ไม่ดีนัก
ด้านนายกิตติศักดิ์ บุญจันทร์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวว่า สถานการณ์แม่น้ำเมยล้นตลิ่งล่าสุดขณะนี้ใกล้วิกฤตแล้ว เนื่องจากฝนยังคงตกหนักต่อเนื่องจากต้นแม่น้ำเมย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอำเภอแม่สอด ขณะนี้เทศบาลตำบลท่าสายลวดพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรือท้องแบนเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในทุกหมู่บ้านแล้ว
สำหรับความเสียหายครั้งนี้คาดว่าจะมีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างและถ้าหากฝนยังไม่หยุดตกในวันนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้ระดับน้ำเมยที่ท่วมสูงอยู่แล้วน้ำจะเพิ่มระดับมากยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าจับตาติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
แม่น้ำเมยล้นตลิ่งจนทำให้เกิดน้ำท่วมสองฝั่งประเทศทั้งประเทศเมียนมาและประเทศไทยเคยเกิดครั้งล่าสุดเมื่อ10 ปีที่แล้ว และก็มาเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกครั้งในวันนี้
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก
5 จังหวัดพบคลัสเตอร์ใหม่ ส่วน CCRT ลงพท.เกือบ 1,500 ชุมชน
ศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ในวันนี้
-ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 4,284 คน
-ใส่เครื่องช่วยหายใจ 954 คน
-ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่รวม 14,150 คน พบมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยติดเชื้อ 2,635 คน ปริมณฑล (5 จังหวัด) ติดเชื้อ 2,886 คน หากแยกจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรองจากกรุงเทพมหานคร คือ จ.สมุทรสาคร 1,092 คน ชลบุรี ติดเชื้อ 884 คน สมุทรปราการ 719 คน และ นนทบุรี 536 คน
-ผู้เสียชีวิต 118 ราย พบมากที่สุดอยู่ในกรุงเทพมหานคร 40 ราย รองลงมา นนทบุรี 20 ราย และ นครปฐม 9 ราย เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย พบเชื้อหลังเสียชีวิต 1 รายที่ จ.ปทุมธานีและเสียชีวิตใน Local Quarantine (LQ) 1 ราย ที่ จ.นนทบุรี และระหว่างการกักตัว 1 รายที่ จ.นครราชสีมา
-คลัสเตอร์ใหม่
จ.ประจวบคีรีขันธ์: แคมป์ก่อสร้าง ที่ อ.หัวหิน ติดเชื้อ 107 คน
จ.ระยอง: แคมป์ก่อสร้าง อ.บ้านฉาง ติดเชื้อ 44 คน
จ.ฉะเชิงเทรา : บริษัทชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ติดเชื้อ 22 คน
จ.ชลบุรี : แคมป์ก่อสร้าง ที่ อ.เกาะจันทร์ ติดเชื้อ 17 คน
จ.ขอนแก่น :ตลาดศรีเมืองทอง อ.เมืองขอนแก่น ติดเชื้อ 15 คน
-ผลการทำงานลงพื้นที่เชิงรุกของทีม Comprehensive Covid-19 Response Team (CCRT) ระหว่างวันที่ 15-26 ก.ค. 64 ข้อมูลเมื่อเวลา 18.00น.วันที่ 26 ก.ค. 64 ประกอบด้วยทีมหลัก 163 ทีม ทีมสนับสนุน 97 ทีม วันนี้ลงพื้นที่ 86 ชุมชน รวมลงพื้นที่แล้ว 1,460 ชุมชน มีผู้รับบริการในการตรวจรวม 68,445 คน ฉีดวัคซีน เพิ่มขึ้น 4,045 คน รวมฉีดแล้ว 50,022 คน มีการสื่อสารให้ความรู้อีก 5,353 คน รวม 68,445 คน
รวบนักเที่ยวไทย-เทศ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กิน-ดื่ม 2 แห่ง ในจ.ชลบุรี 78 คน
ยังมีสถานบริการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโควิด-19 เมื่อเวลา 21.30 วานนี้ (26 ก.ค.) นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง บุกตรวจสอบ “ร้านแบมบู” ตั้งที่ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมควบคุมตัวผู้กระทำผิดที่ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ชลบุรี เป็นชาวไทยและต่างชาติ รวม 66 คนที่กำลังนั่งดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน หลังสืบทราบว่า ร้านดังกล่าวฝ่าฝืนเปิดบริการให้นั่งรับประทานอาหาร และลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้นักท่องเที่ยว ซึ่งขัดกับคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของ จ.ชลบุรี
นอกจากนั้น พ.ต.อ.เดชา ชิดสองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอกรินทร์ สิกขากูล รอง ผกก.สส.สภ.หนองปรือ ยังได้นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจสอบร้าน FAT BOY BAR & GRILL ปากซอยบุญสัมพันธุ์ 5/1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ก่อนควบคุมตัวชาวไทยและต่างชาติ 12 คนพร้อมขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การจับกุมครั้งนี้ มาจากชาวบ้านได้ร้องเรียนว่า มีชาวต่างชาตินั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่บริเวณชั้นใต้ดินของบาร์ดังกล่าว จึงวางแผนนำกำลังบุกเข้าตรวจสอบและจับกุม พร้อมยึดกลางเป็นขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้เป็นหลักฐาน
ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรีที่ 62/2564 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคโควิด-19 และแจ้งข้อหาเจ้าของร้านยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการนั่งทานภายในร้าน
นิวยอร์ก-แคลิฟอร์เนีย บังคับให้พนง.รัฐ ฉีดวัคซีน หรือ เข้ารับการตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์
นายกเทศมนตรีบิล เดอ บลาซิโอ จากนิวยอร์ก ซิตี้ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า จะบังคับให้พนักงานมากกว่า 300,000 คนเข้าฉีดวัคซีนภายในวันที่ 13 ก.ย.64 หรือไม่ก็ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อทุกสัปดาห์ หลังจากที่เมืองนี้ที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐฯ อนุมัติคำสั่งบังคับให้บุคลากรด้านสาธารณสุขทุกคนที่ประจำอยู่ตามโรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของเมืองต้องฉีดวัคซีน
ส่วน นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า มีคำสั่งให้พนักงานรัฐทุกคน ราวๆ 246,000 คน ฉีดวัคซีนเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.64 เป็นต้นไป หรือไม่ก็ต้องเข้ารับการตรวจเชื้ออย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยระบุว่า ขณะนี้เราอยู่ในจุดที่การเลือกไม่ฉีดวัคซีนของบุคคลหนึ่งๆ กำลังส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆ ที่เหลือ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างมาก เกิดขึ้นในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ ในนั้นรวมถึงฟลอริดา เท็กซัส และมิสซูรี่ ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 40 ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุว่า จนถึงตอนนี้มีชาวอเมริกันพลเมืองแค่ราว ครึ่งหนึ่งที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว จำนวนการฉีดวัคซีนรายวันเคยแตะระดับสูงสุด 4.63 ล้านคนในวันที่ 10 เมษายน จากข้อมูลของซีดีซี ทว่ามันค่อยๆ ซบเซาและชะลอตัวลงนับตั้งแต่นั้น การบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 และบังคับตรวจเชื้อยังคงเป็นประเด็นขัดแย้ง และจุดชนวนการยื่นคัดค้านทางกฎหมาย โดยฝ่ายต่อต้านมองว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล