ความพยายาม 16 ปี วันนี้ สำเร็จแล้ว! ผืนป่าแก่งกระจาน ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ซึ่งเป็นการจัดประชุมผ่านระบบทางไกล ระหว่างวันที่ 16 -31 ก.ค.64 โดยจีนเป็นเจ้าภาพ ขึ้นทะเบียนพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าจะเร่งนำเสนอแผนพัฒนากลุ่มป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยมุ่งเน้นเรื่องการอนุรักษ์และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าควบคู่กับการดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิทธิมนุษยชนของประชาชนในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ร่วมกับป่า
กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี รวมพื้นที่ 2,938,909.84 ไร่

นายวราวุธ กล่าวว่า กว่า 6 ปี ที่ประเทศไทยมุ่งมั่น ผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานและเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก โดยมีการนำเสนอมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2562 จนมาถึงการประชุมครั้งนี้ และเป็นที่น่ายินดีว่าในปีนี้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก ขอขอบคุณพี่น้องชาวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศที่ช่วยสนับสนุนประสานงาน การผลักดันการขึ้นทะเบียนป่าแก่งกระจานให้เป็นมรดกโลก ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา เราพยายามผลักดันการขึ้นทะเบียนไปทั้งหมด 4 ครั้ง จนวันนี้ พวกเราทำสำเร็จแล้ว
CR:TOP Varawut - ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ,กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล
รมช.มท. สั่งการ ปภ. และ 8 จังหวัดริมโขง เตรียมรับมวลน้ำขนาดใหญ่จากจีนและลาว
ไทยต้องเตรียมรับสถานการณ์ หลังจากที่มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า เกิดเหตุเขื่อน 2 แห่งแตก ในเมืองฮูหลุนเป้ยเอ่อร์ ในเขตปกครองตนเองมองโกเลีย ทางตอนเหนือของจีน ประกอบกับเกิดฝน 1,000 ปี ตกหนักอย่างต่อเนื่องเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในมณฑลเหอหนาน จนต้องมีประกาศเตือนเขื่อนอี้เหอถาน เขื่อนอีกแห่งในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน อาจพังถล่มได้ตลอดเวลา ทำให้ประเทศทางตอนใต้ลงมา เช่น ลาว ไทย ต้องมีการเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังสถานการณ์การระบายมวลน้ำใหญ่จากพื้นที่ตอนบนอย่างใกล้ชิด
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของลาวมีการประกาศให้เขื่อนน้ำอู ปล่อยระบายน้ำ 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และอีกแห่ง คือ เขื่อนไซยะบุรี ก็ได้มีการเร่งระบายน้ำมากขึ้น เพื่อรองรับมวลน้ำใหญ่จากจีน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้
ในส่วนของไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงทั้ง 8 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เลย จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ขอให้เตรียมการรับมือและแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำโขงให้เฝ้าระวังและเตรียมการอพยพทันทีหากเกิดความรุนแรง เนื่องจากปริมาณน้ำนั้นมีมวลขนาดใหญ่มาก และอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายวันกว่าการระบายน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) คาดว่า จะมีน้ำไหลผ่านที่เขื่อนไชยะบุรี ประเทศลาว ประมาณ 8,000 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำโขงท้ายเขื่อนไซยะบุรี รวม 7 จังหวัด
-ระดับน้ำในแม่น้ำโขง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม ในช่วงวันที่ 25-29 ก.ค.64 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 2.00-2.10 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 2.38 เมตร , 4.37 เมตร , 6.80 เมตร และ 4.41 เมตร ตามลำดับ บริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ช่วงวันที่ 25-31 ก.ค.64 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 2.50 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 4.13 เมตร , 4.00 เมตร และ 5.36 เมตร ตามลำดับ
กรมชลฯ ตัดยอดน้ำจากลุ่มน้ำยัง เข้าแก้มลิง หลังฝนตกชุกจาก ‘พายุเจิมปากา’
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุ “เจิมปากา” ทำให้มีฝนตกชุกหลายพื้นที่ในช่วงสัปดาห์นี้ ส่งผลดีมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น สั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่ง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย ปรับแผนการระบายน้ำอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่าง
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยัง หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำจังหวัดกาฬสินธุ์และร้อยเอ็ด
-สำนักงานชลประทานที่ 6 เตรียมพร้อมตัดยอดน้ำในลำน้ำยัง โดยใช้ประตูระบายน้ำ(ปตร.)บุ่งเบ้า, ปตร.กุดปลาเข็งและปตร.บ้านบาก ที่สร้างไว้เป็นตัวควบคุมปริมาณน้ำ ให้ไหลเข้าไปเก็บยังแก้มลิง 3 แห่ง ได้แก่ บึงบ่อแก บึงเกลือ และกุดปลาคูณ ความจุเก็บกักรวม 30 ล้าน ลบ.ม. ตัดยอดน้ำได้ในอัตราประมาณ 10-20 ลบ.ม./วินาที หรือประมาณวันละ 0.8-1.7 ล้าน ลบ.ม. โดยไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร
-ประสานการบริหารจัดการน้ำร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 7 ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนยโสธร-พนมไพร จังหวัดยโสธร จากเดิมระบายวันละ 20.7 ล้าน ลบ.ม. (240 ลบ.ม./วินาที) เป็นวันละ 28.3 ล้าน ลบ.ม. (327 ลบ.ม./วินาที) เพื่อเร่งระบายน้ำจากลำน้ำยัง พร้อมทั้งเดินเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ช่วยเร่งการระบายน้ำไปลงแม่น้ำชีให้เร็วที่สุด
CR:กรมชลประทาน
จีน ยกระดับเตือนภัยสีส้ม! ฝนตกหนักจนถึงวันนี้ สูงสุด 220 มม.
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีน ประกาศเตือนภัยพายุฝนระดับสีส้มในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 20.00 น.ของวันจันทร์ จนถึงเวลา 20.00 น.ของวันอังคาร คาดว่าจะมีฝนตกหนักและพายุฝนในหลายพื้นที่ของเจ้อเจียง เซี่ยงไฮ้ เจียงซู และอันฮุย หลายพื้นที่อาจมีฝนตกสูงสุด 220 มม. โดยบางพื้นที่ของเฮยหลงเจียง ส่านซี เหอเป่ย ปักกิ่ง ยูนนาน เสฉวน และทิเบต อาจมีฝนตกมากกว่า 80 มม. รวมถึงพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรง
ศูนย์บัญชาการป้องกันน้ำท่วมจีนเผยข้อมูลนับถึงวันที่ 12 ก.ค. 64 อุทกภัยในปีนี้ทำให้หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ มณฑลเจียงซี อันฮุย หูเป่ย หูหนัน กว่างตง กว่างซี ฉงชิ่ง เสฉวน และอื่นๆรวม 27 มณฑลและเขตการปกครอง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 37.89 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 141 ราย