หลังประชาชนหลายหมื่นคนประท้วงตามท้องถนนทั่วประเทศตูนีเซีย รวมทั้งในกรุงตูนิส เมื่อวาน เพื่อขับไล่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเอนนาห์ดาของนายกรัฐมนตรีฮิเชม เมชีชี(Hichem Mechichi) ฐานบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผิดพลาด และเกิดเหตุปะทะกับตำรวจ จนกระทั่งตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการประท้วงโดยเฉพาะที่ถนนบูร์กุยบา ใกล้อาคารรัฐสภาในกรุงตูนิส จับกุมแกนนำผู้ประท้วงหลายคน
ประธานาธิบดีคาอิส ไซเอด(Kais Saied)ของตูนีเซีย ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล หลังการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของตูนีเซียที่ทำเนียบประธานาธิบดี ประกาศว่า ในฐานะประธานาธิบดีมีคำสั่งให้ปลดนายเมชีชี ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสั่งระงับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเมื่อเห็นว่าเกิดภัยร้ายแรงที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
นายไซเอดระบุว่า เขาจะเข้ามารับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร่วมกับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะแต่งตั้งเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศโดยเร็ว ข่าวนี้สร้างความยินดีให้กับบรรดาผู้ประท้วง
แต่นายราเชด กันนูชี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของตูนิเซีย มองการใช้อำนาจเช่นนี้ของประธานาธิบดีว่ามีลักษณะคล้ายกับการทำรัฐประหาร โดยนายกันนูชีเห็นว่า รัฐสภาในฐานะองค์กรที่ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติของตูนีเซียจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญต่อไป พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงตามท้องถนนเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญเช่นกัน
เมื่อ 10 ปีก่อน ความสำเร็จในการลุกฮือของภาคประชาชนเพื่อประท้วงขับไล่รัฐบาลเผด็จการตูนีเซียในขณะนั้น
ก่อให้เกิดการประท้วงที่เรียกว่า อาหรับสปริง ในประเทศอื่นๆทั่วทั้งทวีปแอฟริกา
ในปัจจุบัน ตูนีเซียมีผู้ป่วยสะสม 569,289 คน เสียชีวิต 18,600 ราย
Cr: bbc