การดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้เข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็วขึ้น พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยรายละเอียดว่า
-ในช่วง 1-2 วันนี้ กรุงเทพมหานคร จะสรุปตัวเลขการลงพื้นที่ไปตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนและจะเปิดเผยสถานที่และจุดที่จะเปิดให้ประชาชนไปตรวจSwab หรือไปตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ว่าจะเป็นเขต หรือกลุ่มเขตใดบ้าง
-กรุงเทพมหานคร จะจัดทำแผนที่เพื่อตรวจสอบกลุ่มผู้ป่วยแยกตามสีว่าอยู่ในพื้นที่หรือเขตไหนบ้าง
-ในเบื้องต้น ผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครส่วนมากเป็นกลุ่มสีเขียว เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการทางเดินหายใจ การรักษาแยกกักที่บ้านได้รับผลดี
-ประชาชนที่ไปตรวจและได้รับผลการตรวจแล้วแต่ยังไม่ยืนยันขอให้แยกกักตัวทันที ส่วนคนที่ตรวจและได้รับผลการยืนยันหากตรวจที่โรงพยาบาลขอให้ติดต่อขอเข้ากักตัวในรูปแบบ Home Isolation กับโรงพยาบาลได้เลย หรือ หากมีการตรวจกับเจ้าหน้าที่หรือกลุ่มเอ็นจีโอ และยังไม่มีโรงพยาบาล ขอให้ติดต่อสายด่วนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1330 กด 14 ซึ่ง กสทช.จะเพิ่มคู่สายจาก 100 คู่สายเป็น200 คู่สาย และจัดหมายเลขสำนักงานเขต 50 หมายเลขให้คนสามารถติดต่อและเข้าถึงระบบการรักษาเร็วขึ้น หรือคนที่อยู่ในระบบประกันสังคมให้กดสายด่วน 1506 กด 6
-เร่งรัดเรื่องการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้เร็วขึ้น
-การกักตัวที่ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ หรือ Community Isolation มีคนเข้าไปพักแล้ว 1,682 คน
-ช่วงบ่ายนี้ 15.00 น.กรมการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข ภาคประชาสังคมต่าง ๆ รวมทั้งสภากาชาดไทย จะมีการประชุมร่วมกันในเรื่อง Home Isolation และ Community Isolation รวมทั้งเตียงในระดับสีเหลือง และสีแดง
-เน้นย้ำว่า ผู้ป่วยติดเชื้อควรจะพักอยู่ที่บ้าน ไม่ควรออกไปรวมตัว เนื่องจากผู้ป่วยจะต้องพักปอด โดยเฉพาะคนที่ต้องระวัง คือ คนที่มีน้ำหนักเกิน และมีโรคประจำตัว อาจจะมีการแพร่เชื้อในชุมชนได้
-การติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังทรงตัว ในสัดส่วนที่สูง แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ จำนวนการติดเชื้อในต่างจังหวัดหลายจังหวัดที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงและนำเชื้อไปติดในพื้นที่ จะเห็นได้ว่า แม้จะมีการบังคับใช้มาตรการแล้ว แต่ยังมีการเดินทางเป็นตัวเลขสูงนับแสนคน