นายทอม แอนดรูส์ ผู้ประสานงานพิเศษด้านสิทธิมนุษย์ในเมียนมาของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมียนมาแย่ลงอย่างต่อเนื่อง หลังบุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์-พยาบาล หยุดงานประท้วงมาตั้งแต่มีการทำรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ โรงพยาบาลส่วนใหญ่ขาดแคลนแพทย์-พยาบาล เตียงคนไข้ และอุปกรณ์ทางการแพทย์เช่นเครื่องช่วยหายใจ โรงพยาบาลหลายแห่งจึงปฏิเสธไม่รับผู้ป่วยใหม่เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำให้ญาติต้องนำผู้ป่วยมารักษาตัวที่บ้าน
แพทย์-พยาบาลกว่า 500 คนไม่กล้ากลับไปทำงานในโรงพยาบาล หลังถูกออกหมายจับในข้อหาเข้าร่วมการประท้วง ทำให้พวกเขาหวั่นเกรงว่าพวกเขาอาจจะถูกจับกุม หรืออาจจะไม่ได้รับความปลอดภัยต่อชีวิต แต่แพทย์บางคนในกลุ่มดังกล่าวยังคงทำงานด้านอื่นๆเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพผ่านแอปพลิเคชันด้านสุขภาพ หรือทำงานในคลินิกเอกชนอย่างหลบๆซ่อนๆ
ภาพข่าวจากนครย่างกุ้ง แสดงให้เห็นว่า บรรดาญาติของผู้ป่วยที่มีอาการสาหัสเข้าแถวที่โรงงานออกซิเจน รอเติมออกซิเจนเต็มถัง เพื่อนำไปให้กับญาติซึ่งรักษาอาการป่วยในบ้าน ขณะที่ฌาปนสถานของวัดต่างๆ เผาศพผู้ป่วยโควิด-19 ทุกวัน
ในปัจจุบัน เมียนมามีผู้ป่วยสะสม 246,663 คน เสียชีวิต 5,814 ราย
Cr: cnn