นายกฯ สั่งเร่งแก้ปัญหากระจายวัคซีน-หามาตรการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุถึงกรณีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่าขณะนี้กระจายวัคซีนไปแล้ว 7 ล้านโดส และมั่นใจว่าหากมีวัคซีนเข้ามามากกว่านี้ ก็จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรไทยได้มากขึ้น พร้อมกับขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนสำคัญในการกระจายวัคซีนไปยังประชาชนอย่างทั่วถึง

          นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ผ่านมามีข่าวปัญหาการกระจายวัคซีน ซึ่งได้สั่งให้เร่งแก้ไขแล้ว  พร้อมอธิบายถึงการแบ่งขั้นตอนการทำงานเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนของหน่วยงานต่างๆ  เริ่มแรก คือจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และลงไปในระดับจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดเองก็ต้องวางแผนบริหารจัดการวัคซีนที่ได้รับไปให้ดี โดยตามหลักการ มีสูตรการจัดสรรวัคซีน คือ

1. เมื่อมีวัคซีนส่งมา กระทรวงสาธารณสุขต้องส่งกระจายวัคซีนไปให้แต่ละจังหวัดทันที โดยขึ้นอยู่สถานการณ์การแพทย์

2. ปัจจัยต่างๆ จะถูกมาคำนวนด้วย เช่น พื้นที่เสี่ยง หรือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหรือไม่

3. หากมีความจำเป็นชะลอการฉีดวัคซีน ให้ประกาศชะลอ และเมื่อมีวัคซีนมา ก็ให้เร่งฉีดทันที  

          นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ในหลายประเทศก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับไทย แต่ไทยยังดีที่สามารถผลิตวัคซีนในประเทศได้ ทำให้ลดปัญหาเรื่องการจัดส่ง พร้อมยืนยันว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผอ.ศบค. จะขอรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ก็แก้ไขปรับปรุงอยู่ทุกวัน เพราะการฉีดวัคซีนให้ประชากร ถือเป็นวาระแห่งชาติที่นายกรัฐมนตรีติดตามอย่างใกล้ชิด และย้ำทุกหน่วยงานว่าต้องไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะชนะโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน

          นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับว่า ร้อนใจและเป็นห่วงกรณีหนี้สินของประชาชนอย่างมาก โดยรัฐบาลได้กำหนดมาตรการระยะสั้นและระยะยาวเพื่อแก้ปัญหา  โดยระยะสั้น จะขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลเรื่องการลดภาระดอกเบี้ยให้ประชาชน  รวมทั้งจะมีมาตรการลดหนี้ครู     และจะเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ  เพิ่มโรงรับจำนำ เพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย  ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 โดยเห็นชอบให้ลดลงร้อยละ 60  เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด

          ขณะที่ปัญหาหนี้สินของการบินไทย วันนี้ ศาลล้มละลายกลาง ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทยแล้ว จึงขอแสดงความยินดีด้วย และหลังจากนี้ก็จะเป็นการเดินหน้าฟื้นฟูการบินไทยให้สำเร็จต่อไป

          นายกรัฐมนตรี ยังย้ำไปถึงการปราบปรามการทุจริต และการแก้ไขปัญหายาเสพติด  โดยระบุว่า หลายเรื่องเกิดก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ แต่ก็ต้องตรวจสอบอย่างเท่าเทียม จะเลือกปฎิบัติไม่ได้