ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30 น.วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564

11 มิถุนายน 2564, 06:22น.


ปธน.สหรัฐฯ เตรียมประกาศฟื้นความสัมพันธ์กับยุโรป ผ่านเวทีจี -7



          การเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือกลุ่มจี-7 ที่เมืองคอร์นวอล์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 11-13 มิ.ย.64 มีการจับตาบทบาทของสหรัฐฯอีกครั้ง  



          ก่อนออกเดินทางจากสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้สัมภาษณ์ว่าเป้าหมายในการเดินทางคือการเสริมสร้างการเป็นพันธมิตรกับยุโรป ทำให้นายวลาดิเมียร์  ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียและประเทศจีน เข้าใจชัดเจนว่า ยุโรปและสหรัฐฯผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็ง

           การประชุมเริ่มต้นจากที่ประธานาธิบดีไบเดน จะพบกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร เพื่อประกาศกฎบัตรแอตแลนติกฉบับใหม่ที่มุ่งจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหรัฐฯให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งประเด็นอื่นๆ เช่น โครงการกระจายวัคซีนทั่วโลกและภาวะโลกร้อน



          ประธานาธิบดีไบเดน จะเรียกร้องให้ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกร่วมสนับสนุนจัดหาวัคซีนให้ประเทศยากจนเพิ่มเติม

          ทำเนียบขาว แถลงยืนยันว่า แผนการบริจาควัคซีนไม่ใช่การแข่งขันทางการทูตกับจีนและรัสเซีย แต่เป็นการกลับเข้าสู่เวทีโลกอีกครั้ง เนื่องจากสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯชูนโยบายชาตินิยมและโดดเดี่ยวตัวเอง

          การเดินทางไปประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน มีกำหนดเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังวินด์เซอร์ ในวันอาทิตย์ด้วย



          จากนั้นประธานาธิบดีไบเดน เดินทางไปที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม ประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และหารือร่วมกับผู้นำของสหภาพยุโรป (อียู)



‘ไบเดน’ ย้ำต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับรัสเซีย  



          การเดินทางเยือนยุโรปของประธานาธิบดีไบเดนครั้งนี้ มีการติดตามการหารือกับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในวันพุธที่ 16 มิ.ย. 64 ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า การหารือทวิภาคีกันครั้งนี้จะบอกกับประธานาธิบดีปูติน อย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯไม่ต้องการสร้างความบาดหมางกับรัสเซีย แต่ต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงและคาดเดาได้ แต่ขณะเดียวกัน สหรัฐฯก็พร้อมตอบโต้อย่างเด็ดขาดและรุนแรง หากรัฐบาลรัสเซียมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่เป็นภัยต่อสหรัฐฯ



          มีการจับตามองกันว่า การประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีปูติน คือ ไฮไลต์ของทริปนี้ และเป็นโอกาสที่ประธานาธิบดีไบเดน จะหารือเรื่องที่แฮกเกอร์ในรัสเซียโจมตีซอฟต์แวร์บริษัทพลังงานของสหรัฐฯและเรียกค่าไถ่ด้วย



นายกฯอินเดีย ตอบรับร่วมประชุมจี-7 ทางออนไลน์ ในฐานะแขกรับเชิญ



          กระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แถลงว่า นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี-7 ผ่านทางระบบออนไลน์ในวันที่ 12-13 มิ.ย.64 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายจอห์นสัน ได้เชิญนายโมดี เข้าร่วมการประชุมในฐานะแขกรับเชิญ



          เมื่อเดือนที่แล้ว นายโมดี ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เนื่องจากติดภารกิจในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ก่อนที่จะตัดสินใจในวันนี้เข้าร่วมการประชุมผ่านทางระบบออนไลน์



          อินเดียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน  29.2 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 361,000 ราย สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯและบราซิล



จีน พร้อมช่วยไทยจัดหาวัคซีน ฟื้นศก.จากวิกฤตโควิด-19



          ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษในวาระครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-จีน และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 6 ที่นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน



-ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะความร่วมมือด้านวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งจีนได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนและจัดหาวัคซีนให้ไทย



-จีนพร้อมสนับสนุนความร่วมมือภายใต้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน -เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ของไทย



-ไทยได้ใช้โอกาสนี้ ติดตามเรื่องที่ขอให้ทางการจีนพิจารณาให้นักศึกษาไทยเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่จีน และให้สายการบินของไทยกลับไปทำการบินเชิงพาณิชย์ได้



-จีนสนับสนุนความร่วมมือในกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ตามที่ไทยให้ความสำคัญ และเดินหน้าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว



-สนับสนุนไทยที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ในปี 2565 ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก



-ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านต่างก็มุ่งหวังที่จะเห็นเมียนมากลับมามีเสถียรภาพ ฝ่ายจีนสนับสนุนความพยายามของอาเซียนที่จะหาทางออกทำให้สถานการณ์ในเมียนมาดีขึ้น รวมถึงสนับสนุนฉันทามติ 5 ข้อ ตามผลการประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อเดือนเม.ย.64 และหวังว่าอาเซียนจะสามารถส่งผู้แทนพิเศษเยือนเมียนมาได้



ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้!  3 จังหวัดในญี่ปุ่น ยกเลิกมาตรการกึ่งฉุกเฉินคุมโควิด



          สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า คณะที่ปรึกษาด้านโรคโควิด-19 ของรัฐบาลญี่ปุ่น ได้อนุมัติแผนยกเลิกมาตรการกึ่งฉุกเฉินเพื่อคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดกุนมะ อิชิกาวะ และคุมาโมโตะ จะเริ่มในวันอาทิตย์นี้ 13 มิ.ย.64 ทั้ง 3 จังหวัดอยู่ภายใต้มาตรการกึ่งฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.64



-ร้านอาหารที่อยู่ในจังหวัดที่บังคับใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน ห้ามให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และต้องปิดร้านภายในเวลา 20.00 น.



-กำหนดจำนวนคนเข้าร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ไว้ที่ 5,000 คน



          ขณะเดียวกัน เอ็นเอชเค ระบุว่า ในสัปดาห์หน้า ญี่ปุ่นจะตัดสินใจยกเลิกมาตรการกึ่งฉุกเฉินใน 5 จังหวัดที่เหลือ



          ส่วนกรุงโตเกียวและโอซาก้า ยังอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉินเต็มรูปแบบจนถึงวันที่ 20 มิ.ย.64



โมเดอร์นา เตรียมฉีดวัคซีนในกลุ่ม 12-17 ปี ทันที หาก FDA อนุมัติ



          บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 สำหรับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ในกรณีฉุกเฉินโมเดอร์นา ระบุว่า หากได้รับการอนุมัติจะขยายการฉีดวัคซีนไปยังกลุ่มนักศึกษากลุ่มเด็กนักเรียนระดับมัธยมกลางและมัธยมปลาย ก่อนเปิดเทอมใหม่



          โมเดอร์นา เปิดเผยว่า ผลการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครที่เป็นวัยรุ่นอายุ 12-17 ปีจำนวนมากกว่า 3,700 คน พบว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับวัยรุ่น

ข่าวทั้งหมด

X