สธ.เร่งสอบสอบโรค หลังคนงานติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ยังใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาได้

21 พฤษภาคม 2564, 15:29น.


          นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงรายละเอียดการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้างเขตหลักสี่ ซึ่งในจำนวนผู้ติดเชื้อ มี 15 คน ตรวจพบว่าติดโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย  โดยการตรวจพบผู้ติดเชื้อ เนื่องจากทีมสาธารณสุข เก็บตัวอย่างผู้ติดเชื้อจากแคมป์นี้ 61 ตัวอย่างไปตรวจหาสายพันธุ์ และพบว่า เป็นสายพันธุ์อินเดีย 15 คน แบ่งเป็น ชาย 7 คน หญิง 8 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี ส่วนใหญ่มีอาการน้อยและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว โดยทั้ง 15 คนนี้ เป็นคนงานในแคมป์ 12 คน อีก 3 คน เป็นผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับคนงานในแคมป์ที่ติดเชื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบไทม์ไลน์และจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยง เพื่อเร่งควบคุมโรค โดยกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งค้นหาเชิงรุก ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยง และให้การรักษาผู้ป่วยทุกรายอย่างรวดเร็ว



          อธิบดีกรมควบคุมโรคยังระบุด้วยว่า ไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์จากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ระบาดในประเทศจีน มาเป็นสายพันธุ์อินเดีย  อังกฤษ บราซิล และแอฟริกาใต้ โดยไทยสามารถถอดรหัสพันธุกรรมและรวบรวมข้อมูลของสายพันธุ์ต่างๆ และพบว่า สายพันธุ์ที่ระบาดในไทยส่วนใหญ่ขณะนี้ คือ สายพันธุ์อังกฤษ ส่วนสายพันธุ์อินเดีย เริ่มพบการระบาดในหลายประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ มาเลเซีย และล่าสุดที่สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ส่วนในเมียนมาและกัมพูชา ยังมีข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมที่ค่อนข้างจำกัด แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีสายพันธุ์อินเดียระบาดด้วยเช่นกัน



          จากข้อมูลของพับลิคเฮลธ์อิงแลนด์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ รายงานว่า สายพันธุ์อินเดีย มีลักษณะการแพร่กระจายที่เหมือนกับสายพันธุ์อังกฤษ คือแพร่กระจายเชื้อได้เร็ว  ส่วนความรุนแรงของโรค ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า จะรุนแรงกว่าสายพันธุ์อังกฤษ นอกจากนี้ รายงานของพับลิคเฮลธ์อิงแลนด์ ยังระบุว่า ยังไม่พบว่าสายพันธุ์อินเดีย มีการดื้อต่อวัคซีนหรือไม่ตอบสนองต่อวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่ยังสามารถป้องกันได้ทั้งสายพันธุ์อังกฤษและสายพันธุ์อินเดีย จะเห็นได้จากในประเทศอังกฤษที่ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นหลัก และมียอดผู้ติดเชื้อลดลง



          ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไทย ที่จะเริ่มพร้อมกันในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จะใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นหลัก  นอกจากนี้ยังมีข่าวดีว่า บริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายบริษัทที่ติดต่อเข้ามา แจ้งว่าอาจจะสามารถนำวัคซีนจากแหล่งอื่นมาให้ประเทศไทยได้เร็วขึ้น จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งหากมีความชัดเจน กระทรวงสาธารณสุขจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง

ข่าวทั้งหมด

X