นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ชาวออสเตรเลียที่ติดอยู่ในอินเดียท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 จะสามารถกลับบ้านได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นไป คือหลังจากที่พ้นกำหนดเวลาจำกัดเที่ยวบินทั้งเที่ยวไปและกลับจากอินเดีย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ ที่ทำให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แต่เขายืนยันถึงความจำเป็นในการออกข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากจุดศูนย์กลางโรคระบาด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินทางด้วยการเดินทางผ่านประเทศที่สามจะถูกลงโทษปรับเงินหรืออาจถูกจำคุกเนื่องจากเป็นการกระทำที่ให้ระบบกักกันได้รับความเสียหาย โดยในช่วงระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 31 พฤษภาคม ออสเตรเลียจะเช่าเหมาลำเที่ยวบินส่งกลับ 3 เที่ยวเพื่อรับชาวออสเตรเลียประมาณ 900 คนเดินทางกลับมา โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องมีผลการทดสอบเป็นลบก่อนออกเดินทาง และยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้เที่ยวบินเชิงพาณิชย์ทั้งขาเข้าและออกจากอินเดียกลับมาดำเนินการเมื่อใด
ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เป็นชายอายุ 50 ปีที่ยังไม่แน่ชัดว่าเขาติดเชื้อจากผู้ใด โดยในการตรวจสอบจีโนมพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยอีกรายที่เดินทางกลับมาจากอเมริกา แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบว่าทั้ง 2 คนมีการพบการติดต่อกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐรายงานในวันนี้ (7 พ.ค.) ว่าในการทดสอบเชิงรุกจากบุคคลมากกว่า 13,000 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม แต่ทางการ นิวซีแลนด์ได้ประกาศระงับการเดินทางติดต่อกับออสเตรเลีย ซึ่งทำให้มุขมนตรีของรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีความเห็นว่าเป็นปฏิกิริยาที่เกินเลย และกรณีที่มีการคาดการณ์ว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ชาวออสเตรเลียหลายครอบครัวจะมีการรวมกลุ่มเพื่อเฉลิมฉลองวันแม่ รัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ออกข้อจำกัดการรวมกลุ่มสังสรรค์ในครัวเรือนไว้ที่ 20 คนและจำกัดจำนวนผู้เยี่ยมชมสถานดูแลผู้สูงอายุไว้ที่ 2 คนต่อผู้อยู่อาศัย 1 คน ทั้งต้องใช้หน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะและในสถานที่จัดงานในร่ม ข้อบังคับนี้มีผลไปจนถึงวันจันทร์ (10 พ.ค.)
....