ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564

06 พฤษภาคม 2564, 19:19น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 6  พฤษภาคม พ.ศ.2564  



เลขาธิการสมช. ย้ำ เคอร์ฟิว จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะใช้หยุดยั้งโควิด-19 หากคุมไม่ได้



         สถานการณ์การแพร่ระบาดและการบริหารจัดการในชุมชนแออัด เช่น คลองเตย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือ ศปก.ศบค.และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุขว่า ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ประชุมวางโครงสร้างรองรับลงไปถึงในระดับเขตซึ่งเรียกว่าศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19เขตต่างๆที่มีโครงสร้างแบ่งเขตเพื่อให้การทำงานสอดประสานกันไปได้ในการป้องกันการแพร่ระบาดให้แต่ละเขตมีการจัดระบบอย่างสมบูรณ์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดได้ด้วยตัวเองปัจจุบันเริ่มใช้มาได้ 2 วันแล้วซึ่งจะใช้ให้ครบ50เขตต่อไป



             หากถึงวันศุกร์ที่14พ.ค. แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้น ศบค.จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องมาประเมินอีกครั้งหนึ่งว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ยังทำให้เกิดการแพร่ระบาดและต้องออกมาตรการป้องกันต่อไป การพิจารณาการออกมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดพยายามให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุดมาตรการล็อกดาวน์หรือมาตรการเคอร์ฟิว จะเป็นมาตรการสุดท้ายหากไม่สามารถหยุดยั้งได้



อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำ ไม่เลือกปฏิบัติ ฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อยู่ในไทย ทั้งต่างชาติ ทูตานุทูต



          การฉีดวัคซีนให้กับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลชัดเจนว่า การฉีดวัคซีนโควิดจะฉีดให้กับทุกคนในแผ่นดินไทยโดยความสมัครใจ หมายความว่า บุคคลใดที่อยู่ในประเทศไทยหากสมัครใจและมีข้อบ่งชี้ ไม่มีข้อห้ามก็จะได้รับการฉีดทั้งหมด นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประเทศจะต้องฉีดอย่างน้อย 70% ของประชากร จากการคำนวณทั้งคนไทย คนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินไทยที่ทำงาน รวมทั้งทูตานุทูต คือ 70 ล้านคน โดยคนไทย 67 ล้านคน และคนต่างชาติที่อยู่ในไทยอีกประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งเมื่อคิด 70% ทำให้ยอดฉีดวัคซีนในแผ่นดินไทย 50 ล้านคน วัคซีน 2 โดสฉีด 1 คน จะเป็น 100 ล้านโดส



          ส่วนประเด็นที่มีข้อซักถามว่า การฉีดวัคซีนให้คนต่างชาติ หรือทูตานุทูตมีหลักปฏิบัติอย่างไร อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ยึดตามสากล ข้อบ่งชี้ตามทางการแพทย์ทั้งหมด เรายึดหลักเกณฑ์อย่างไรกับคนไทย ต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยก็เหมือนกัน และไม่มีใครฉีดก่อนฉีด โดยขณะนี้แค่รอวัคซีนเข้ามา ยกตัวอย่างที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างด้าวไปจำนวนมาก



นครศรีธรรมราชปิดหมู่บ้านในอ.ร่อนพิบูลย์ เพิ่ม 3 หมู่บ้าน พบระบาดเชื่อมโยงสำนักทรงในจ.พัทลุง



          สถานการณ์ในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 27 คน โดยช่วงเช้าของวันนี้ มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสิชล ได้เสียชีวิตลงอีก 1 ราย เป็นหญิงอายุ 69 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรค โดยผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้ป่วยคลัสเตอร์กิจกรรมไหว้ครูหมอ มโนราห์ ในตำบลการะเกิด อำเภอเชียรใหญ่



          นอกจากนั้น ยังพบการติดเชื้อในคลัสเตอร์ในอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการพบเชื้อในวงเดียวกันพร้อมกันถึง 13 คน มีการสอบสวนโรคพบว่าเชื่อมโยงกับสำนักคนทรง ในท้องที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นับเป็นการพบคลัสเตอร์ใหม่ที่มีต้นเชื้อมาจากจังหวัดพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่เร่งทำการปฏิบัติการควบคุมโรคแล้ว ส่วนผู้ป่วยสะสมในวันนี้สูงถึง 527 คน รักษาหายแล้ว 110 คน



          ขณะที่ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคระบาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ประชุมได้มีมติยกระดับการควบคุมพื้นที่ขั้นสูงสุด ล่าสุดได้ให้มีการปิดหมู่บ้านเพิ่มในอำเภอร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์วงพนันงานบวช อีก 3 หมู่บ้านคือหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 7 ตำบลควนชุม หมู่ที่ 8 ตำบลควนพัง โดยมีการพบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกินกว่าร้อยละ 10 ของประชากรในหมู่บ้าน ส่งผลให้ขณะนี้ใน อำเภอร่อนพิบูลย์ถูกปิดแล้ว 6 หมู่บ้าน และในอำเภอปากพนังในหมู่ที่ 1 ตำบลเกาะทวด อีก 1 หมู่บ้าน รวม 7 หมู่บ้าน



'สมุทรปราการ'เปิดไทม์ไลน์ 3 ผู้เสียชีวิต มีโรคประจำตัว-ไปสถานที่แออัด



          สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรปราการ ว่า ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 คน แยกเป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 98 คน แบ่งเป็น



-อำเภอเมืองสมุทรปราการ 62 คน



-อำเภอพระประแดง 8 คน



-อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 5 คน



-อำเภอบางพลี 17 คน



-อำเภอบางบ่อ 4 คน



-อำเภอบางเสาธง 2 คน



          รับมารักษาต่อในสมุทรปราการจำนวน 45 คน



          ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 ราย รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 75 ปี มีโรคประจำตัว ไขมันโลหิตสูง เบาหวาน ความดัน ประวัติ เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ที่อยู่ กทม.



รายที่สองเป็นหญิงไทย วัย 48 ปี ประวัติเสี่ยง เดินทางไปสถานที่แออัด ที่อยู่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และ



รายที่สาม หญิงไทยอายุ 48 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ประวัติเสี่ยง เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ที่อยู่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ



เร่งสอบสวน พบผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนได้เพียง 2 วัน



          กรณีชาย อายุ 51 ปี พนักงานขับรถเอ็กซเรย์ ชาวจ.นนทบุรี เสียชีวิตหลังรับการฉีดวัคซีนโควิดได้เพียง 2 วัน แพทย์ระบุสาเหตุ เกิดจากสภาวะกล้ามเนื้อหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ครอบครัวสงสัยว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า รายนี้คณะกรรมการพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีนกำลังดำเนินการสอบสวน เมื่อมีผู้เสียชีวิตก็ต้องพิจารณาและดูข้อมูลอย่างละเอียด คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน จะได้ข้อสรุปออกมาเร็วๆนี้ หากมีหลักฐานชัดเจนสามารถฟันธงได้ว่า สำหรับโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมักพบในคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และเบาหวาน



          อย่างไรก็ตาม วัคซีนถือเป็นอาวุธสำคัญในการสู้กับโรคหรือทำให้บรรเทาลง สิ่งที่อยากเห็นจากวัคซีน คือ ไม่ให้มีการติดเชื้อ หรือติดเชื้อแต่ไม่ป่วยหนัก หรือไม่แพร่ไปในครอบครัวและสังคม และอาจสู้กับการกลายพันธุ์ได้ แต่วัคซีนโควิด-19 เพิ่งวิจัยหลังจากมีโรคนี้ 10 เดือน ต้องเข้าใจก่อนว่า ยังไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ จึงต้องชั่งน้ำหนักเทียบประโยชน์และโทษอันไหนมากกว่ากัน ซึ่งทุกประเทศเห็นพ้องว่า มีประโยชน์มากกว่าโทษ นอกจากนี้ วัคซีนของไฟเซอร์และแอสตราเซเนกา มีการศึกษาและเพิ่งตีพิมพ์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทั้งคู่ฉีดแล้วป้องกันแพร่เชื้อในครอบครัวได้ถึงครึ่งหนึ่ง ไฟเซอร์ได้ 60% แอสตราเซเนกา 50% โดยศึกษาคนที่ฉีดวัคซีนแล้วป่วยโควิด เมื่อไปดูคนในบ้านพบว่าติดเชื้อน้อยลงเมื่อเทียบกับคนไม่ได้ฉีด ดังนั้น วัคซีนเป็นสิ่งจำเป็นในการควบคุมโรค เพราะฉะนั้นต้องดูจากข้อมูลและพิจารณาเอาเอง อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนชั่งน้ำหนักแล้วมีประโยชน์มากกว่าโทษ



รพ.วิภาวดี ยกเลิกจัดซื้อวัคซีน โควิด-19 Moderna เนื่องจากเกิดความเสี่ยง



          โรงพยาบาลวิภาวดี โพสต์ แจ้งคนที่สนใจรับวัคซีน โควิด-19 Moderna กับโรงพยาบาล เพื่อเป็นวัคซีนทางเลือก โดยหวังให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ และท่านได้ให้ความสนใจวัคซีนทางเลือก (Moderna) กับโรงพยาบาลวิภาวดี นั้น

          โดยที่การดำเนินการจัดซื้อวัคซีน ณ สถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้โรงพยาบาลวิภาวดีให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ทุกท่านไม่ได้ ว่าจะได้รับวัคซีนในช่วงเวลาใด ซึ่งโรงพยาบาลถือว่าอาจเกิดความเสี่ยงแก่ท่าน และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อผู้ใช้บริการทุกท่านที่คาดหวังว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด โรงพยาบาลวิภาวดีจึงพิจารณาตัดสินใจยกเลิกการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว



คลัง จ่อเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 มิ.ย.นี้ เพิ่ม 16 ล้านคน เดิม 15 ล้านคน ยืนยันสิทธิ์



          นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ซึ่งมีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เป็นประธาน จะมีการพิจารณารายละเอียดของมาตรการในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนจากผลกระทบของโควิด-19 ระลอกใหม่เพิ่มเติม ในส่วนของมาตรการเราชนะ และมาตรการ ม 33 เรารักกัน ซึ่งจะมีการเพิ่มวงเงินสิทธิ์ให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์อีกสัปดาห์ละ 1 พันบาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์ รวมคนละ 2,000 บาท โดยใช้งบประมาณ 8.55 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นจะเร่งเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เม็ดเงินใหม่เข้าสู่มาตรการได้ไม่เกินเดือน พ.ค. 2564



          ก.คลังคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนมาตรการคนละครึ่ง เฟส 3 ให้ครอบคลุม 31 ล้านคน ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ โดยกลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิ์เดิม 15 ล้านคน จะต้องเข้าไปยืนยันตนใช้สิทธิ์ ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือ จะเลือกสละสิทธิ์ เพื่อไปใช้มาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น



          ส่วนคนมีรายได้สูง จะมีมาตรการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" สนับสนุน e-Voucher ค่าซื้อสินค้า ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และบริการกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ไม่เกิน 5 พันบาทต่อคนต่อวัน สะสมสูงสุดไม่เกิน 7 พันบาทต่อคน

          อย่างไรก็ดีในส่วนของการรับสิทธิ์ตามมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เตรียมจะดำเนินการนั้น ประชาชนสามารถใช้สิทธิ์ได้ 1 คนต่อ 1 โครงการเท่านั้น เช่น หากเลือกรับสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ได้อีก หรือหากเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งได้อีก เป็นต้น



ขานรับมาตรการฟื้นฟูรับโควิดระบาด ปิดบวก 22จุด



          การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (6 พ.ค.2564) ภาพรวมเริ่มฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด จากหลายปัจจัยสนับสนุน ทั้งคลายกังวลสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศที่ดีขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทั้งยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงไทยได้รับวัคซีนโควิดเข้ามาเพิ่ม และยังเปิดทางให้ภาคเอกชนร่วมจัดหาวัคซีนด้วย อีกทั้งยังมีข่าวดีจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจะใช้เม็ดเงิน 2.3 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่งผลให้ปิดตลาดฯที่ระดับ 1,571.91 จุด เพิ่มขึ้น 22.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 91,321.21 ล้านบาท



          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อคืนหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจหลังได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกทำนิวไฮเมื่อคืนนี้จากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปิดตลาดที่ระดับ 29,331.37 จุด เพิ่มขึ้น 518.74 จุด โดยระดับปิดวันนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกทำนิวไฮเมื่อคืนนี้จากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ  ปิดที่ 28,637.46 จุด เพิ่มขึ้น 219.48 จุด



“เฟาซี” เผย ผู้มีประวัติติดเชื้อโควิด-19  ฉีดวัคซีน mRNA จะมีภูมิคุ้มกันไวรัสใน 2 กลายพันธุ์มากขึ้น



          นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี แพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้ที่เคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 และได้รับการฉีดวัคซีนในภายหลังนั้น อาจสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีมากขึ้น โดยอ้างถึงผลการวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อปลายเดือน เม.ย.2564 พบว่า ผู้เคยติดเชื้อโควิด-19 และรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคแล้ว 1 เข็ม จะมีภูมิคุ้มกันในการต้านทานไวรัสสายพันธุ์ B.1.1.7 ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในอังกฤษ และสายพันธุ์ B.1.351 ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน โดยระบุว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อได้รับการฉีดวัคซีน mRNA จำนวน 2 โดสแล้วนั้น จะสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้มากขึ้น



ศาลรธน.ชี้แจง-เผยแพร่ภาพ นั่งอ่านคำวินิจฉัยสวมหน้ากากอนามัย เตือนวิจารณ์ศาลเข้าข่ายละเมิดผิดกม.



          สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ทำการอ่านคำวินิจฉัยคดี เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ในขณะที่ทำการถ่ายทอดภาพและเสียงการอ่านคำวินิจฉัยคดีผ่านทางทีวีวงจรปิดได้มีภาพนิ่งของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะที่มิได้สวมหน้ากากอนามัย เข้ามาแทนที่ภาพเคลื่อนไหวของศาลที่กำลังดำเนินกระบวนการอ่านคำวินิจฉัยอยู่ในระยะแรก ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้สวมหน้ากากอนามัยอยู่โดยครบถ้วนทุกท่าน และภาพนิ่งที่แทรกเข้ามาดังกล่าวอาจเป็นเหตุให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยในขณะทำการอ่านคำวินิจฉัยคดีนั้น

          ทั้งนี้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันกับข้อเท็จจริง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขอเรียนขี้แจงว่า ภาพนิ่งดังกล่าวไม่ใช่ภาพในขณะที่ศาลกำลังปฏิบัติหน้าที่อ่านคำวินิจฉัยในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด หากแต่เป็นภาพที่ได้มีการบันทึกไว้ในวาระโอกาสอื่น และนำมาใช้เฉพาะวัตถุประสงค์สำหรับประกอบการถ่ายทอดทีวีวงจรปิดในช่วงเวลาที่ทำการตัดภาพการถ่ายทอดให้มีเฉพาะเสียงการอ่านคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ในการนี้จึงขอเรียนให้ทราบว่า ในขณะที่ศาลทำการอ่านคำวินิจฉัยอยู่นั้น คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกท่าน ได้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด อย่างเคร่งครัดตลอดเวลาจนภารกิจดังกล่าวเสร็จสิ้น



          นอกจากนั้น ในเอกสารชี้แจง ยังได้นำภาพการนั่งอ่านคำวินิจฉัยมาเผยแพร่ด้วย และในเอกสารชี้แจง ยังให้ความรู้ทางกฎหมายเพื่อประโยชน์สังคม : บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 34 แต่หากเป็นกรณีการแสดงความเห็นในลักษณะของการวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยคดีที่มิได้กระทำโดยสุจริต ใช้ถ้อยคำที่มีความหมายหยาบคาย เสียดสี หรือาฆาตมาดร้าย เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561  มาตรา 38  และมาตรา 39 และอาจเป็นความผิดฐานดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198



ศาลปล่อยตัว'รุ้ง ปนัสยา'ชั่วคราว เงินประกัน 2 แสน ห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียสถาบัน-ห้ามออกนอกประเทศ



          หลังจากมีการไต่สวนในช่วงเช้า ศาลอาญา ได้มีคำสั่งให้ประกันตัว “รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล” แกนนำราษฎร โดยวางหลักทรัพย์ 200,000 บาท และมีเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยจะมีการปล่อยตัวในช่วงเย็น จากเรือนจำฯ ในวันนี้



           โดยศาลอาญา ได้เปิดเผยการพิจารณาคดีในวันนี้ ระบุว่า นางสาวปนัสยา ได้แถลงต่อศาลด้วยความสมัครใจว่า หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่ไปกระทำการใดๆ ที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร มาศาลตามกำหนดนัด และเข้าร่วมกระบวนการพิจารณาคดีของศาล

          นอกจากนั้น ในวันนี้ ยังได้แต่งตั้งทนายความเข้าร่วมกระบวนการพิจารณาคดีของศาลแล้ว และจะไม่หลบหนี หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ โดยมีบิดาและมารดาของจำเลย ที่ 5 รวมถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อดิศร จันทรสุข รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมแถลงยืนยันว่า จำเลยที่ 5 สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ต่อศาล



          ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ถือได้ว่าพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไป จึงอนุญาตให้ปล่อยตัว ตีราคาหลักประกัน 200,000 บาท มีเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการใดในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาตามฟ้องหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และให้มาศาลตามนัดอย่างเคร่งครัด

ข่าวทั้งหมด

X