ตำรวจอินโดนีเซียจับกุมและดำเนินคดีพนักงานหลายคนของบริษัทคีเมีย ฟาร์มา (Kimia Farma) บริษัทยาของอินโดนีเซียจากการนำอุปกรณ์ทดสอบโควิด-19 ชนิดตรวจโพรงจมูก (nasal swab test kits) กลับมาใช้ซ้ำ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว (2563) และมีผู้โดยสารมากถึง 9,000 คนที่สนามบินกัวลานามูในเมืองเมดานตกเป็นผู้เสียหาย
ทางสนามบินไม่ได้เปิดเผยว่าพบการทุจริตนี้ได้อย่างไร แต่การดำเนินคดีบริษัทคีเมีย ฟาร์มา มีขึ้นในนามของกลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบินในเมืองทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา โดยมีทนายความ 2 คนที่เดินทางผ่านสนามบินกัวลานามูหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เปิดเผยว่าพวกเขาวางแผนที่จะฟ้องบริษัทคีเมีย ฟาร์มาเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้แก่ผู้โดยสารรายละ 1,000 ล้านรูเปียห์
ทางการอินโดนีเซีย มีข้อกำหนดว่า ผู้โดยสารเครื่องบินจะได้รับอนุญาตให้เดินทางหากมีผลการทดสอบเชิงลบ และสนามบินสามารถจัดให้มีการทดสอบให้เสร็จในสถานที่ได้ จึงมีการใช้ชุดทดสอบแอนติเจนอย่างรวดเร็วที่บริษัทคีเมีย ฟาร์มาเป็นผู้จัดหา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพนักงาน 5 คนของบริษัทรวมถึงผู้จัดการถูกตำรวจจับกุม และถูกตั้งข้อสงสัยว่าละเมิดกฎหมายด้านสุขภาพและผู้บริโภคด้วยการนำไม้เช็ดจมูกที่ใช้งานแล้วไปทำความสะอาดแล้วบรรจุหีบห่อใหม่เพื่อนำมาใช้ซ้ำ
สื่อท้องถิ่น รายงานว่า ตำรวจได้รวบรวมรายงานจากพยาน 23 คนและคาดว่าบริษัททำกำไรจากการหลอกลวงประมาณ 1,800 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 3,894,321 บาท) ที่ถูกนำไปใช้ในการสร้างบ้านของผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง
ด้านบริษัทคีเมีย ฟาร์มา ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงจาการ์ตา เปิดเผยว่าไล่ออกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสัญญาว่าจะเพิ่มการควบคุมภายใน
...