ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเป้าหมายใหม่ของโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยภายในวันที่ 4 กรกฎาคม หรือวันชาติสหรัฐฯ ประชากรผู้ใหญ่อย่างน้อยร้อยละ 70 จะต้องได้รับวัคซีนเข็มแรก โดยในสัปดาห์หน้า สหรัฐฯจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ที่มีอายุ 12 ถึง 15 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีที่แล้วที่อยู่ในระดับประมาณร้อยละ 3 จนมาถึงประมาณร้อยละ 22 ในปัจจุบัน
ประธานาธิบดีไบเดนยอมรับว่าเป็นการยากที่จะโน้มน้าวให้ชาวอเมริกันทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่เขาหวังว่าทุกคนจะมีความเชื่อมั่น และตระหนักถึงความเสี่ยงจากคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีต่อผู้อื่น โดยเมื่อวานนี้ (4 พ.ค) ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ประกาศว่าจะมอบเงินเกือบ 250 ล้านดอลลาร์ให้กับรัฐ ดินแดนและผู้บริหารในเมืองใหญ่เพื่อนำไปใช้ขับเคลื่อนโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้ ภายในกรอบเวลาเดียวกันคือ 4 กรกฎาคม สหรัฐฯ จะแบ่งปันวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 60 ล้านโดส หรือประมาณร้อยละ 10 ที่มีอยู่ในคลังวัคซีนไปให้กับประเทศต่างๆ อาทิ แคนาดา และเม็กซิโก รวมไปถึงบางประเทศที่กำลังมีการเจรจา ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารยืนยันว่าตัวเลขร้อยละ 10 คือปริมาณที่ฝ่ายบริหารมีความมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันกับประเทศอื่น ๆ หากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาออกใบอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมอีกประมาณ 50 ล้านโดสที่อยู่ในขั้นตอนการผลิตและสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน
...