นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า WHO ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการกระจายวัคซีนให้กับประเทศที่มีฐานะปานกลางถึงยากจนรวม 165 ประเทศทั่วโลก หรือ COVAX ต้องการระดมเงินสมทบเข้าโครงการอีก 35,000-45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับจัดซื้อวัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ต่ำทั่วโลกต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก
นายแพทย์ทีโดรส กล่าวหา กลุ่มประเทศที่มีฐานะร่ำรวยว่ากักตุนวัคซีน โดยสั่งซื้อวัคซีนสำรองไว้หลายเท่าเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของประเทศ ตั้งข้อสังเกตว่า จากปริมาณวัคซีนมีการฉีดให้กับคนไข้ทั่วโลกในเดือนเมษายน WHO พบว่าเพียงร้อยละ 0.3 ของวัคซีนได้รับการกระจายให้กับกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำทั่วโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศที่มีฐานะร่ำรวยบริจาควัคซีนให้กับประเทศที่มีฐานะยากจน
ขณะที่สวีเดนประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ว่าจะบริจาควัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาจำนวนหนึ่งล้านโดสให้กับโครงการ COVAX เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศยากจนทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ อังกฤษประกาศจะบริจาควัคซีนสำรองบางส่วนให้กับประเทศอื่นๆที่มีฐานะยากจน ขณะที่บริษัทโมเดอร์นา ผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯทำข้อตกลงกับโครงการ COVAX ขายวัคซีน 500 ล้านโดสในราคาต่ำกว่าท้องตลาด แต่บริษัทฯคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนเพื่อส่งมอบให้กับโครงการนี้ในปีหน้า
สำหรับโครงการ COVAX ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปีที่แล้ว เพื่อให้มีการกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรมระหว่างกลุ่มประเทศที่มีฐานะร่ำรวยกับกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำ ส่งมอบวัคซีนกว่า 49 ล้านโดสสำหรับประเทศที่มีฐานะยากจนทั่วโลกเช่น กานา อัลจีเรีย มาลาวี ยูกันดาในทวีปแอฟริกา อิหร่านในตะวันออกกลาง และเอลซัลวาดอร์และนิการากัวในทวีปอเมริกากลางตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ปัญหาเหลื่อมล้ำเรื่องการกระจายวัคซีนยังคงมีอยู่อีกมาก ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยสะสม 154,178,244 คนทั่วโลก เสียชีวิต 3,226,875 ราย
Cr: BBC