ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30 น.วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม 2564

04 พฤษภาคม 2564, 05:26น.


ไทย ติดกลุ่มประเทศได้รับผ่อนปรนจากตุรกี ไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ



         กระทรวงสาธารณสุขตุรกี ประกาศรายชื่อกลุ่มประเทศที่ได้รับการผ่อนปรนในการเดินทางเข้าประเทศตุรกี โดยคนที่เดินทางจากกลุ่มประเทศดังกล่าวจะไม่ต้องแสดงผลตรวจ PCR โควิด-19 ที่เป็นลบ



         กลุ่มประเทศดังกล่าว ได้แก่ ไทย จีน (รวมทั้งฮ่องกงและไต้หวัน) เวียดนาม สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิสราเอล ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ ลัตเวีย ลักเซมเบิร์ก ยูเครน และเอสโตเนีย คำสั่งผ่อนผันดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 พ.ค.64



ไต้หวัน เร่งสอบไทม์ไลน์ นักธุรกิจติดโควิด หลังเดินทางออกจากไทย



          สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค. 64ว่า นักธุรกิจชาวไต้หวันแซ่เสิ่น ผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19



          ทางการไต้หวัน ตรวจสอบพบว่า นักธุรกิจชาวคนนี้ เดินทางถึงไต้หวัน ด้วยสายการบิน EVA Air เที่ยวบิน BR212 เมื่อวันที่ 2 พ.ค.64 และเขาได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยว่ามีไข้ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

          ด้านสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ออกประกาศแจ้งเตือนให้ญาติและผู้ที่เคยติดต่อสัมผัสกับนักธุรกิจชาวไต้หวันแซ่เสิ่นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาและผู้โดยสารที่เดินทางเข้าไต้หวันในเที่ยวบินเดียวกันควรเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 และกักตัวทันทีเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง

          ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ได้รายงานไปยังศูนย์บัญชาการควบคุมโรคติดต่อไต้หวันแล้ว ซึ่งหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงต่อไป และดำเนินการติดตามข้อมูลไทม์ไลน์ของนักธุรกิจชาวไต้หวันแซ่เสิ่นทันทีเพื่อรีบป้องกันการแพร่ระบาด



อินโดฯพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย-แอฟริกาใต้ ในประเทศครั้งแรก



          อินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย หรือ B.1.617 ในประเทศเป็นครั้งแรก นายบูดี กูนาดี ซาดิกิน  รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย ระบุว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียที่พบเป็นครั้งแรก เป็นผู้ติดเชื้อ 2 คนอยู่ในกรุงจาการ์ตา



          นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้เป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยพบจำนวน 1 คน ที่บาหลี



          รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่า เราต้องควบคุมผู้ติดเชื้อเหล่านี้ที่ยังคงมีเพียงไม่กี่รายให้ได้



          อินโดนีเซียกำลังต่อสู้กับการควบคุมสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 หนักที่สุดชาติหนึ่งในเอเชีย ได้หยุดการออกวีซ่าให้กับชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในอินเดียในช่วง 14 วันก่อนเดินทางมาตั้งแต่เดือนเม.ย.64 หลังจากอินเดียเผชิญสถานการณ์ระบาดหนักของโรคโควิด-19 ในระลอกที่สอง



ผู้เชี่ยวชาญ คาดตัวเลขติดเชื้อจริงในอินเดียอาจสูงกว่าทางการ 5-10 เท่า



          กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถึง 318,647 คน ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 19.93 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตอีก 3,417 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 218,959 รายแล้ว



          นักวิทยาศาสตร์ คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะถึงจุดสูงสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า



          ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียซึ่งมีประชากรนับ 1.35 พันล้านคน อาจสูงกว่าตัวเลขของทางการถึง 5-10 เท่า



          ทีมนักวิทยาศาสตร์ ที่ปรึกษารัฐบาลอินเดีย ได้ใช้โมเดลคณิตศาสตร์ คำนวณจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินเดียพบว่า อาจถึงจุดพีค สูงสุดในช่วงระหว่างวันที่ 3-5 พ.ค. 64 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า เนื่องจาก เชื้อโควิด-19 ได้มีการแพร่ระบาดที่เร็วมากขึ้น จนทำให้เตียงคนไข้ในโรงพยาบาลต่างๆ ในประเทศเต็มความจุ ขาดแคลนออกซิเจน รวมทั้งห้องเก็บศพ และสถานที่เผาศพเต็มไปด้วยศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยขณะนี้ทางการรัฐต่างๆ ในอินเดียอย่างน้อย 11 รัฐ ได้ออกมาตรการเข้มในการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19



CEO สถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย หนีไปอังกฤษ อ้างถูกข่มขู่



          สถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย (SII) เป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะแอสตราเซเนกา ที่ใช้ภายในประเทศและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโคแวกซ์  เมื่ออินเดียประสบปัญหาผลิตวัคซีนไม่ทัน จนมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นจนไม่มีที่เผา ทำให้ SII ตกเป็นเป้าหมายว่าทำงานล่าช้า



          ล่าสุด นายอดาร์ ปูณาวัลลา ซีอีโอของ SII อ้างว่าถูกข่มขู่คุกคาม ทำให้เขาพาครอบครัวออกจากอินเดียไปอยู่ที่สหราชอาณาจักร



          เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 รัฐบาลอินเดีย เพิ่งสั่งให้มีการคุ้มครองนายปูณาวัลลาในระดับ Y ซึ่งหมายความว่า จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยติดตามตัวเขา 2 คน และส่งชุดคุ้มครองติดอาวุธเฝ้าที่หน้าบ้าน เขาถูกโทรศัพท์มาขู่ว่า ถ้าไม่ให้วัคซีน จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่



          SII เพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนจาก 1,500 ล้านโดส เป็น 2,500 ล้านโดส ด้วยเงิน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีวัคซีนโควิชีลด์ 50 ล้านโดส รัฐบาลอินเดีย เพิ่งให้ซีอีโอสถาบันเซรั่มกู้เงิน 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน



สหรัฐฯเตรียมค้นหาต้นตอการแพร่ระบาดของโควิดเฟสที่สอง



          สหรัฐฯ ยังไม่หยุด เดินหน้าหาต้นตอสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากกองสุขภาพและบริการสังคม ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตร และหน่วยงานรัฐบาลกลางอีก 5 แห่ง กำลังร่วมกันพัฒนาข้อแนะนำต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการค้นหาต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เฟสใหม่ และเป็นเฟสที่สอง รวมทั้งศึกษาว่าเชื้อโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดได้อย่างไร เพราะตอนนี้เรายังไม่ทราบต้นกำเนิดของเชื้อโควิด-19 ที่ระบาดใหญ่ทั่วโลก นับตั้งแต่เริ่มระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ของจีน เมื่อปลายปี 2562



          ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ เตรียมยื่นข้อเสนอแนะในการค้นหาต้นกำเนิดเชื้อโควิดเฟสใหม่ต่อองค์การอนามัยโลก หลังจากได้ปรึกษาหารือกับชาติพันธมิตรอีกหลายชาติแล้ว ซึ่งแต่ละชาติเตรียมจะยื่นข้อแนะนำแก่องค์การอนามัยโลกเอง



          สิ้นเดือนมี.ค. 64 สหรัฐฯและชาติสมาชิก 13 ชาติ เรียกร้องกระบวนการค้นหาต้นกำเนิดของเชื้อโควิด-19 ในเฟสใหม่นี้ว่าควรทันเวลาและกระบวนการค้นหาต้องมีหลักฐานที่โปร่งใส

          ขณะที่ นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ชี้ว่า ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่า เปิดกว้างให้มีการศึกษาทฤษฎีทุกเรื่องเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19



 

ข่าวทั้งหมด

X