หลังจากออสเตรเลีย ประกาศเมื่อวันเสาร์ 1 พ.ค.64 ห้ามเครื่องบินทั้งหมดจากอินเดียเดินทางเข้ามาที่ออสเตรเลียมีผลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์จากอินเดีย และจะดำเนินคดีอาญา เช่น ปรับ 66,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียและจำคุกในอัตราสูงสุด 5 ปี สำหรับชาวออสเตรเลียที่กลับมาจากอินเดียในช่วงที่มาตรการนี้ใช้บังคับ นักวิจารณ์บางคนของออสเตรเลีย เช่น สว.เมห์รีน ฟารุกี จากพรรคกรีนส์และนายแอนดรูว์ โบลท์ นักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของออสเตรเลีย ท้วงติงกล่าวหารัฐบาลออสเตรเลียว่า มีนโยบายเหยียดผิว ละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่า เมื่อปีที่แล้วในช่วงที่ออสเตรเลีย ปิดชายแดน ห้ามเครื่องบินโดยสารจากประเทศจีน ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2562 บินเข้ามาที่ออสเตรเลีย ออสเตรเลียถูกนักวิจารณ์ในทำนองเดียวกัน จึงชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เพื่อปกป้องชุมชนออสเตรเลียให้ปลอดภัย ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองหรืออุดมการณ์ทางการเมือง
ด้านนางมาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากอินเดีย จะต้องเข้ารับการกักกันเฝ้าระวัง 2 สัปดาห์ มีสัดส่วนติดโรคโควิด-19 ในอัตราร้อยละ 57 ของผู้เข้ารับการกักกันทั้งหมด เพิ่มจากร้อยละ 10 ในเดือนมีนาคม นับว่าเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในด้านการบริการทางสาธารณสุขและการแพทย์ของออสเตรเลีย
ในปัจจุบัน อินเดียพบผู้ป่วยใหม่มากกว่า 300,000 คนต่อวันมา 10 วันติดต่อกันแล้ว สร้างความหวั่นวิตกให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของออสเตรเลียอย่างมาก ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีผู้ป่วยสะสม 29,838 คน เสียชีวิต 910 ราย
Cr: BBC, ABC News Australia