หลังจากที่รัฐบาลอินเดีย เดินหน้าจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นใน 5 รัฐคือ อัสสัม,เบงกอลตะวันตก,ทมิฬนาฑู,เกรละและปุทุจเจรี ระหว่างเดือนมี.ค.ถึงต้นเดือนเม.ย.64 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง อยู่ระหว่างการนับคะแนน ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ปรากฏว่า พรรคภราติยะ ชนะตะ หรือบีเจพี ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย แพ้การเลือกตั้งในพื้นที่สำคัญคือ รัฐเบงกอลตะวันตก ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีประชากร 90,000,000 คน พรรคบีเจพี คว้าที่นั่งสมาชิกสภาท้องถิ่น 80 ที่นั่ง รั้งอันดับสอง รองจากพรรคตรีนามูลคองเกรสของนางมามาตา บันเนอร์จี มุขมนตรีรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งคว้าที่นั่งสมาชิกสภาท้องถิ่นกว่า 200 ที่นั่งจากทั้งหมด 294 ที่นั่ง ขณะที่นายโมดี ได้ทวีตข้อความไปแสดงความยินดีกับนางบันเนอร์จี
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่า เป็นสัญญาณ ชี้ว่า ประชาชนไม่พอใจเรื่องการแก้ไขปัญหาวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีโมดี หลายคนวิจารณ์ว่านายโมดีให้ความสำคัญกับเรื่องการเลือกตั้งมากกว่าการจัดทำแผนควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนในปัจจุบัน
ตลอด 10 วัน ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในอินเดียสูงกว่า 300,000 คนต่อวัน ขณะที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่ขาดแคลนเตียงคนไข้และเครื่องช่วยหายใจ ชาวอินเดียหลายคนใช้สื่อออนไลน์เพื่อร้องขอความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนจากสังคม ในปัจจุบัน อินเดียมีผู้ป่วยสะสม 19,919,715 คน เสียชีวิต 218,945 ราย เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ
การเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปี 2559 พรรคบีเจพี เคยได้ที่นั่งสมาชิกสภาท้องถิ่นในรัฐเบงกอลตะวันตกเพียง 3 ที่นั่ง ดังนั้นก่อนการเลือกตั้งในครั้งนี้ นายโมดี พร้อมแกนนำระดับสูงของพรรค ลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงหลายครั้งในรัฐเบงกอลตะวันตก หวังจะนำพรรคให้พลิกกลับมาชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ แต่ปรากฏว่าพรรคพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
ส่วนพื้นที่อื่นๆ แม้ว่าพรรคบีเจพี คว้าชัยชนะในรัฐอัสสัม แต่รัฐอื่นๆอีก 3 รัฐคือ ทมิฬนาฑู,เกรละและปุทุจเจรี ทางภาคใต้ของประเทศ ปรากฏว่า พรรคบีเจพี ทำผลงานได้ไม่ดีนัก
CR:BBC