ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564

03 พฤษภาคม 2564, 09:12น.


ส.ภัตตาคารไทย ขอ ศบค.ทบทวนมาตรการ ขอนั่งกินในร้านได้



         นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่ง ศบค. ที่ไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร ล่าสุด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้รับทราบแล้ว



         นางฐนิวรรณ กล่าวว่า สมาคมภัตตาคารไทยได้รับข้อร้องเรียน ปรับทุกข์จากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดโรคโควิด-19 และจากมาตรการควบคุมใน 2 ระยะ การระบาดที่ผ่านมา ร้านจำนวนไม่น้อยต้องเลิกกิจการพร้อมกับหนี้สิน และจำนวนมากสุ่มเสี่ยงต้องปิดกิจการ มูลค่าความเสียหายจากคำสั่งล่าสุดนี้อยู่ที่ 1,400 ล้านบาทต่อวัน



         ขณะที่ อาหารที่เป็นอาหารจานเดียวริมทางหรือร้านเล็ก ๆ ที่เป็นตึกแถว ขอให้พิจารณาอนุญาตกลับมาให้นั่งทานในร้านได้เช่นกันในวันที่ 7 พ.ค.64 แต่ต้องลดที่ลงอย่างน้อยร้อยละ 50 ของที่นั่งเดิม มีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ไม่อนุญาตให้ลูกค้าที่ไม่ได้มาด้วยกันนั่งรวมโต๊ะเดียวกันเด็ดขาด



         ด้านร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู บุฟเฟ่ต์ ไม่อนุญาตในนั่งโต๊ะเดียวกันเกิน 4 คน เว้นระยะห่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หรือ 1 เมตร มีฉากกั้น ไม่อนุญาตให้ตักอาหารบุฟเฟ่ต์เอง รวมทั้งจำกัดจำนวนคนในการเดินตักอาหารให้เหมาะสมด้วย 



         นอกจากนี้ ขอให้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยพิจารณาเยียวยา ค่าจ้าง เงินเดือนพนักงานร้อยละ 50 งดการจัดเก็บภาษีในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผ่อนผันการชำระดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน และพักการชำระเงินต้นเป็นเวลา 1 ปี และขอให้ ศบค.ประสานเจ้าของห้างสรรพสินค้าลดค่าเช่าอย่างน้อยร้อยละ 50 โดยเจ้าของพื้นที่ที่ให้ส่วนลดสามารถนำไปลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลในรอบบัญชีถัดไป ซึ่งเป็นการช่วยประคับประคองร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบมาตลอดทั้งปี                                       



ศวส.ชี้มาตรการห้ามขายแอลกอฮอล์ หยุดโควิด-19 ได้ พบคนหยุดดื่ม 50%



         ศ.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 63 ศวส. ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ศึกษาผลกระทบของการแพร่ระบาดต่อสถานการณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยด้วยการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ พนักงานในสถานบันเทิง ร้านอาหาร และผู้ค้าขาย จำนวน 640 ราย พบว่า การที่รัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการปิดเมือง และออกมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 ในช่วงเวลาดังกล่าว พบว่า ประชาชนร้อยละ 50 หยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มลดลงอีก ร้อยละ 30-40 สะท้อนว่ามาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วยการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สั่งปิดสถานบันเทิง และงดพฤติกรรมเสี่ยงในงานรื่นเริง มีผลทำให้ตัดวงจรระบาดของโควิด-19 ได้



          แม้มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปิดสถานบันเทิง จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่จากผลงานวิจัยพบว่า มีผู้ประกอบการจำนวนมากพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ปรับรูปแบบการให้บริการในร้าน ด้วยการเปลี่ยนไปขายสินค้าชนิดอื่นและเปลี่ยนช่วงเวลาขายให้เหมาะสม ทำให้หลายธุรกิจไปต่อได้ เมื่อมีการวางแผนรับมือที่มีประสิทธิภาพ



กรมอนามัย ห่วงเสิร์ฟซูชิกินในรถเสี่ยงโควิด-19



          นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และ โฆษกกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีการให้บริการของร้านซูชิบุฟเฟต์เชียงใหม่แบบ Drive-In Buffet เสิร์ฟตรงถึงที่ให้ลูกค้านั่งกินอาหารในรถยนต์ส่วนตัวนาน 2 ชั่วโมง โดยเป็นการปรับตัวของร้านอาหารภายหลังที่ได้กำหนดให้จังหวัดเชียงใหม่เป็น 1 ใน 6 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด แม้ว่าทางร้านดังกล่าว จะมีรูปแบบการสั่งอาหารโดยใช้วิธีการสั่งผ่านแอปพลิเคชันและคิวอาร์โค้ด พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจำกัดจำนวนลูกค้าในแต่ละรอบด้วย แต่การกินอาหารในรถพร้อมกันลักษณะนี้อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ เพราะจะไม่ทราบได้ว่าผู้ที่มาอยู่ในรถเป็นสมาชิกในครอบครัวอยู่ในบ้านเดียวกัน หรือเป็นการรวมกลุ่มคนจากหลากหลายที่มาอยู่รวมกันในที่แคบ ห่างกันไม่เกิน 1 เมตร รถเล็กๆ ห่างกัน 50 เซนติเมตร อากาศถ่ายเทไม่ดีเท่าที่ควร และใช้เวลากินนานพอสมควร อีกทั้งจำเป็นต้องถอดหน้ากากอนามัยออกเมื่อกินอาหารร่วมกัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ รวมทั้งการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายกรณีเป็นพื้นที่ที่กฏบังคับเรื่องการสวมหน้ากากออกนอกเคหสถานมากกว่า 2 คน แม้จะมาจากบ้านเดียวกันอาจถูกจับปรับได้



         ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในช่วงเวลานี้ขอให้ประชาชนใช้วิธีการซื้อไปกินที่บ้าน หรือสั่งอาหารแบบดิลิเวอรีแทน เพื่อลดการออกนอกบ้านหรือรวมตัวกันโดยไม่จำเป็น และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น การใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ ก็อาจจะมีการผ่อนปรนให้นั่งกินในร้านอีกครั้ง แต่กำจัดจำนวนผู้ใช้บริการและเข้มมาตรการ เว้นระยะห่างหรือมาตรการอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งต้องเป็นความร่วมมือของทุกคนที่ต้องช่วยกันเพื่อลดความเสี่ยงของโรคโควิด-19



เชียงใหม่ เพิ่มจุดตรวจหาเชื้อโควิด เริ่มตั้งแต่วันนี้ ใครอยู่แถวช้างคลาน ไปกันได้



         สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงใหม่ ประกาศว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางไปยังสถานที่เสี่ยง หรือสัมผัสผู้ติดเชื้อ สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้



-โรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง



-จุดตรวจที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เวลา 9.00-16.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ



-ศูนย์วัณโรคเชียงใหม่ (ตรงข้ามสุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์) เวลา 9.00-15.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ

ข่าวทั้งหมด

X