ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันอังคารที่ 27 เมษายน 2564

27 เมษายน 2564, 08:56น.


แรงงานเถื่อนจากเมียนมา ลักลอบเข้าเมือง จับได้ที่ชายแดนเมืองกาญจนบุรี



          หลังจากที่ พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ร.19/ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ได้รับแจ้งจากทหาร ชป.ข่าวความมั่นคงชายแดนอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า มีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้ลักลอบนำพาแรงงานเดินเท้าข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติช่องทางพุชะนี โดยเดินเท้าเลียบเขาระยะทาง 5 กิโลเมตร และให้แรงงานพักคอยเพื่อรอการเคลื่อนย้าย โดยจะใช้ยานพาหนะมารับที่ชายป่าเชิงเขา หมู่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี



         พ.อ.ยุทธนา สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ประสาน นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค และ พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค ร่วมลาดตระเวนในพื้นที่เป้าหมายโดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้การเดินเท้าเข้าโอบล้อมบ้านท่าข้ามสุด และพบกลุ่มคนซ่อนตัวอยู่ตามป่าละเมาะชายเขา จึงจับกุม พบว่าเป็นแรงงานชาวเมียนมา 54 คน และเด็กอีก 4 คน   



          จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี และฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2556 จากการตรวจค้นพบว่าไม่มีเอกสารหรือหนังสือเดินทาง



         จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า เดินทางมาจากทวาย ประเทศเมียนมา โดยลัดเลาะตามเส้นทางตามธรรมชาติ จ่ายเงินให้นายหน้าหัวละ 10,000-15,000 บาท เพื่อเดินทางมาทำงานที่กรุงเทพฯ และ จ.สมุทรสาคร



         หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศา ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค สอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย



ชาวอินเดีย 7 คน ที่เดินทางเข้าไทยติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย รักษาตัวอยู่ที่ นนทบุรี



          สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย มียอดผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตสูงขึ้นทุกวัน เป็นเหตุเชื้อโยงจากสถานบันเทิงหลายที่ ซึ่งการระบาดครั้งนี้เป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ ในจำนวนผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ศบค.ได้ประกาศรายชื่อผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่ง 7 คน ใน 10  คน เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย ในระหว่างอายุ 27-61 ปี ผู้ติดเชื้อ 7 คน เป็นสายพันธุ์อินเดีย เป็น Double mutation หรือ โควิดกลายพันธุ์คู่ และแสดงอาการ โดยทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจ.นนทบุรี



นายกฯ เร่งรัดภายใน 3 เดือน ฉีดวัคซีนให้ได้ 30 ล้านคน



         นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงแรงงานรับผิดชอบการคัดกรอง โดยกลุ่มผู้ประกันตนขอให้กระทรวงแรงงานคัดกรอง ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว แต่กรณีพบผู้ป่วย สายด่วนที่มีอยู่เมื่อโทรเข้าไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ไปรับมาจากที่บ้านเข้าจุดคัดกรอง ที่จัดสถานที่ไว้ เช่น อินดอร์ สเตเดี้ยม ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการเข้าสู่โรงพยาบาลสนามที่เตรียมไว้หลายแห่ง ส่วนคนที่มีอาการคัดกรองแล้วเป็นระดับสีเหลืองต้องเข้าสถานที่พยาบาล แต่จะเป็นที่ไหนคงจะดูจุดว่าง หรือฮอทพิเทล สำหรับผู้มีอาการหนักหรืออยู่ในกลุ่มสีแดงต้องเข้าโรงพยาบาลเรื่องที่ 2 พิจารณาจัดหาวัคซีน ซึ่งต้องคุยกับภาคเอกชนว่าจะช่วยได้อย่างไร ขอย้ำว่าวัคซีนเข้ามาช่วง 3 เดือนข้างหน้า 26,000,000 โดส เพียงพอสำหรับฉีดเข็มแรกให้ประชาชน 26,000,000 คน และจะมีเพิ่มเข้ามาจากซิโนแวคอีก 1 ล้านโดส ฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าช่วง 3 เดือนข้างหน้าเราตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 30,000,000 คน จากประชากรเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนแรก 50,000,000 เพราะจะมีวัคซีนทางเลือกที่หาเพิ่มเข้ามาอีก ขณะนี้วัคซีนที่เพิ่มเติมเข้ามา นอกจากซิโนแวคและแอสตราเซเนกา จะมีจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ส่วนไฟเซอร์และยี่ห้ออื่น อย่างสปุตนิก จะดำเนินการเร่งด่วนที่จะขึ้นทะเบียนและนำเข้ามา



หารือเอกชน 28 เม.ย.ตั้งศูนย์ซิงเกิลคอมมาน-เพิ่มจุดฉีดวัคซีน



         ประเด็นที่จะพูดคุยกับภาคเอกชน วันพุธที่ 28 เม.ย.64 นายดนุชา กล่าวว่า ขอความร่วมมือจัดสถานที่ฉีดวัคซีน เพราะเราตั้งเป้า 3 เดือนข้างหน้าต้องฉีดให้ได้อย่างน้อยวันละ 300,000 คนทั่วประเทศ ต้องใช้สถานที่อื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลด้วย คงมีสถานที่อื่นเพิ่มเติม ส่วนรายละเอียดการแบ่งกลุ่มว่าใครจะรับผิดชอบอย่างไรจะชัดเจนวันพรุ่งนี้ว่าภาคเอกชนจะช่วยเรื่องสถานที่หรือจะรับวัคซีนบางส่วนไปฉีดให้ภาคธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรม



         นอกจากนี้จะมีการหารือ เรื่องศูนย์ซิงเกิล คอมมานด์ ซึ่งบริหารจัดการลักษณะซิงเกิลคอมมานด์ เพื่อให้การบริหารจัดการชัดเจนมีประสิทธิภาพ



รมว.พลังงาน ย้ำคงแผนเดิม เปิดให้นทท.เข้าไทยเดือน ก.ค.



         นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน มั่นใจว่า รัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายใน 2 สัปดาห์ เนื่องจากในขณะนี้แม้จะมีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่จำนวนของผู้ที่รักษาหายก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวันเช่นกัน



          ในส่วนที่ดูแลเศรษฐกิจ แผนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจะยังคงเป็นไปตามแผนเดิม คือ ในเดือนก.ค. 64 จะเปิดบางส่วน บางพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่รับการฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้



         การปรับลดประมาณการรายได้การท่องเที่ยวก็คงต้องเป็นไปตามนั้น แต่ยังมั่นใจว่าประชาชนคนไทยจะยังท่องเที่ยวกันเอง และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเพราะมีกลุ่มคนที่มีเงินเก็บออมในปีที่ผ่านมาก็มีการออมเงินกันเพิ่มขึ้นถึง 300,000-400,000 ล้านบาท



        ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หมดโอกาสที่จะขยายตัวถึงร้อยละ 4 แล้วใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน คาดหวังว่าถ้าประชาชนออกมาช่วยกันจับจ่ายใช้สอยกันมาก โดยเฉพาะผู้มีเงินออม ซึ่งในเดือนพ.ค.64 เตรียมมาตรการเอาไว้แล้วในการให้คนเอาเงินออมออกมาใช้ โดยรัฐบาลสนับสนุนมาตรการบางส่วน รวมทั้งมาตรการเยียวยาก็ได้เตรียมไว้แล้วจะประกาศให้ทราบในเดือนพ.ค.64 และมีผลบังคับใช้ในเดือนมิ.ย.64



รัฐ เตรียมเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ  



         น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งอัดฉีดเม็ดเงิน 200,000-300,000 ล้านบาท ในช่วงปลายเดือนพ.ค.64 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่า รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณสำหรับการเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าวแล้วกว่า 300,000 ล้านบาท โดยในส่วนมาตรการของกระทรวงการคลัง ที่พิจารณาจะเป็นการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ลดภาระของประชาชนและกระตุ้นการใช้จ่าย การบริโภคภายในประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ



เสนอ ‘หัวหิน’ เป็นพื้นที่เปิดรับนทท.ฉีดวัคซีน 2 โดส ไม่ต้องกักตัว   



          นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสปาไทย เปิดเผยหลังการหารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาว่าได้เสนอให้รัฐบาลเพิ่มเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่หัวหินได้โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64



         เบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 100,000 ราย สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท ซึ่งรมว.การท่องเที่ยวฯ ได้รับทราบและจะนำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ในวันที่ 6 พ.ค.64เห็นชอบต่อไป



         การเพิ่มพื้นที่หัวหินเป็นอีกหนึ่งพื้นที่นำร่องนั้น จะทำผ่านโครงการหัวหิน รีชาร์จ ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาลและสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจรถเช่า บริษัททัวร์ ฯลฯ ในพื้นที่เทศบาลหัวหิน ตั้งเป้าหมายเกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ตั้งแต่ 1 มิ.ย.64 เป็นต้นไป และครบถ้วนตามเป้าหมายร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ภายใน 30 ก.ย.64 เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ พนักงานและแรงงานในภาคธุรกิจบริการกว่า 89,000 คนในพื้นที่ให้มีรายได้

ข่าวทั้งหมด

X