กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ขององค์การอนามัยโลก (SAGE) ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการลิ่มเลือดอุดตัน และเกล็ดเลือดต่ำหลังจากรับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกานอกยุโรป ก่อนออกรายงานปรับปรุงคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้วัคซีน พร้อมย้ำว่า องค์การอนามัยโลกยังคงให้การสนับสนุนข้อสรุปที่ว่าวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
เมื่อวันที่ 7 เมษายน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญฯ ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่มีความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับอาการลิ่มเลือดอุดตัน และเกล็ดเลือดต่ำ แต่สงวนการยืนยันอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ยาก จากการที่มีการใช้วัคซีนนี้ใน 157 ประเทศและดินแดน พบว่าผู้ที่มีอาการส่วนใหญ่จะอยู่ในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ส่วนในประเทศอื่น ๆ พบผู้ป่วยเพียงไม่กี่ราย นอกจากนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดอาการลิ่มเลือดหลังการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 โดยในเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วมีอาการลิ่มเลือดอุดตัน ไม่ควรได้รับวัคซีนเข็มที่ 2
ในคำแนะนำที่มีการเผยแพร่ล่าสุด ระบุว่า กลุ่มอาการลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือดต่ำจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 4 ถึง 20 วันหลังการฉีดวัคซีน ผลการศึกษาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างวัคซีนและอาการถือว่ามีความเป็นไปได้ แม้ว่ากลไกทางชีววิทยาสำหรับกลุ่มอาการนี้จะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป จึงต้องมีการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์
นอกจากนี้วัคซีนแอสตราเซเนกายังเป็นวัคซีนหลักของโครงการโคแวกซ์เพื่อกระจายวัคซีนไปยังประเทศยากจนและประเทศกำลังพัฒนา มีการจัดส่งวัคซีนไปแล้วมากกว่า 40,500,000 โดสแก่ 118 พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ
....