ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564

23 เมษายน 2564, 08:26น.


พรุ่งนี้ วัคซีนซิโนแวค เข้ามาอีก 5 แสนโดส  ขณะที่ จีน ให้ไทยเพิ่มอีก 5 แสนโดส



         นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.64) จะมีวัคซีนซิโนแวคเข้ามา 500,000 โดส เป็นส่วนที่เจรจาได้ในก่อนหน้านี้ ล่าสุด ได้รับจดหมายจากสถานทูตจีน ประจำประเทศไทยว่า รัฐบาลจีน พร้อมส่งวัคซีนซิโนแวคให้ไทยอีก 500,000 โดสด้วย และขอให้เรายืนยันว่า ยินดีจะรับ ซึ่งไม่มีเงื่อนไขในการรับ แต่เมื่อให้มากขนาดนี้ เราก็พร้อมจะฉีดให้สำหรับทุกคนที่อาศัยในประเทศไทย



‘ปูติน’ ไฟเขียว ส่งวัคซีนสปุตนิก ให้ไทย



         ไทยจะได้รับวัคซีนเพิ่มจากรัสเซีย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยเจรจาหารือกับรัฐบาลรัสเซียโดยตรง เรื่องการจัดหาวัคซีนสปุตนิก วี เพิ่มในรูปแบบรัฐต่อรัฐ กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับคำตอบจากรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยินดีให้การสนับสนุนรัฐบาลไทย เนื่องจากไทยและรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนานและมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องกับรัฐบาลไทยในปัจจุบัน



          พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการต่อไปให้เป็นรูปธรรม และกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการทันที โดยได้นัดบริษัทตัวแทนบริษัทวัคซีนในประเทศไทย มาหารืออย่างเร่งด่วนแล้ว



สธ.ขู่เอาผิดคนฝ่าฝืนจัดปาร์ตี้ ยังพบผู้ติดเชื้อจากการสังสรรค์ สถานการณ์ไทยยู่บนยอดระฆัง



         นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดช่วงเดือนเม.ย.64 จะคล้ายระฆังคว่ำ ตอนนี้เข้าสู่ช่วงสูงสุดของระฆัง แต่หากประชาชนร่วมมือกันภายใน 1-2 สัปดาห์จะค่อยๆ เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง



         อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถึงแม้ศูนย์บริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน( ศบค.)มีคำสั่งห้ามจัดปาร์ตี้ แต่ยังพบว่ามีคนจัดอยู่ และพบการติดเชื้อเกิดขึ้นจริงๆ จนต้องเข้าไปควบคุมการระบาดและกักตัว ดังนั้นต้องมีการเข้มงวดขึ้น คนที่ยังฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ยังเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนจังหวัดอื่นๆหลายๆที่มีความเข้มข้นมาก บางที่มีการปรับจริงคนไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ



เปิด Ward รับผู้ป่วยสีเหลือง 200 เตียง ที่สถาบันธัญญารักษ์ รังสิต



         นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลทุกสังกัด กำลังเร่งเคลียร์ผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นแล้วกลับมาอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ให้ออกมาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม หรือ ฮอสพิเทล เพื่อทำให้เตียงในโรงพยาบาลว่าง เพื่อรองรับสำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีแดงที่มีอาการ ขณะเดียวกัน จำเป็นต้องเปิด Cohort-Ward รองรับกลุ่มผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการในกลุ่มสีเหลืองเข้าไปรักษา เนื่องจาก ข้อกำหนดขณะนี้ ผู้ป่วยสีแดงและเหลืองต้องได้รับรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติจริงเราต้องเร่งส่งคนมีอาการสีแดงเข้าไปโรงพยาบาลให้เร็ว ทำให้กลุ่มสีเหลืองต้องรอ



         ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง จึงเปิดหอผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนขยาย ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี(สถาบันธัญญารักษ์ รังสิต) จ.ปทุมธานี อีก 200 เตียง



CR:กรมการแพทย์



ผู้ป่วยโทรขอเตียง 1,700 ราย – รออยู่ 400 ราย



          นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวว่า



-ข้อมูลล่าสุด 1668 รับสายจากประชาชน 3,600 สาย



-เคลียร์ข้อมูลแล้วพบว่าเป็นผู้ป่วยจริง 1,700 ราย



-จัดหาเตียงให้แล้ว 1,300 ราย



-อยู่ในระหว่างการจัดหาอีก 400 ราย



*ในจำนวนที่รอเตียงจะเป็นผู้ป่วยสีเขียว 2 ใน 3



*ส่วนที่ระหว่างการรอเตียงแล้วอาการเปลี่ยนแปลงจากสีเขียวเป็นอาการสีเหลืองมีประมาณร้อยละ 10



ย้ำต้องขอเอกสารรับรองการติดเชื้อ พบ 10  คน ไปตรวจแล็บไม่ได้มาตรฐาน



          ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวว่า พบปัญหาว่า มีผู้ป่วยบางคนที่ประสานเข้ามาแต่ไม่มีเอกสารยืนยันผลตรวจรับรองติดเชื้อ บางคนบอกว่าไปตรวจแล็บเอกชนมา ไม่มีเอกสารให้ มีเพียงเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าติดเชื้อแล้วเท่านั้น ทำให้เราต้องตรวจสอบอีกมาก ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นการเอาคนที่ไม่ได้ติดเชื้อไปอยู่รวมกับคนติดเชื้อ



-ดังนั้นประชาชนที่ไปตรวจแล็บ หากแล็บแจ้งว่าติดเชื้อ ขอให้ขอเอกสารรับรองให้ด้วย ที่เราต้องตรวจสอบเข้มงวด



-ในจำนวนผู้ที่โทรเข้ามาสายด่วน 1668 พบว่ามีประมาณ 10 คน ที่ไปตรวจแล็บไม่ได้มาตรฐานแล้วให้ผลบวกปลอม



        การตรวจที่เป็นมาตรฐานเพื่อยืนยันเชื้อ ต้องเป็นวิธีการ SWAB หรือเก็บตัวอย่างเชื้อในลำคอเพื่อส่งตรวจห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช้วิธีการเจาะเลือด แล้วตรวจด้วยแรบปิดเทสต์ หรือชุดทดสอบอย่างง่าย ซึ่งไม่ใช่การตรวจหาโควิด-19 



กรมการแพทย์ ประณามแล็บไม่ได้มาตรฐาน ให้ผลตรวจปลอม

         อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ขอประณามแล็บที่ไม่มีมาตรฐาน และโฆษณาลดราคา ค่าตรวจหาเชื้อร้อยละ 50 และอื่นๆ แต่เมื่อไปตรวจกลับใช้วิธีที่ไม่เป็นมาตรฐาน เช่น ตรวจเลือด ซึ่งทำให้ผลคลาดเคลื่อน หรือผลบวกปลอม แต่เมื่อผู้ป่วยเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลแล้วทั้งที่ตัวเองไม่ได้ติดเชื้อ ก็เสี่ยงรับเชื้อมาได้ เรื่องนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ก็ไล่ปิดและออกเกณฑ์ให้แล็บตรวจต้องจับคู่กับโรงพยาบาล เพื่อให้คนที่มาตรวจที่แล็บเอกชนแล้วต้องมีคนรับผิดชอบดูแลส่งต่อ



มาเลย์ จับคนไทย 42 คน อยู่เกินกำหนด หลังครบกำหนดผลักดัน



          นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ทางการมาเลเซีย จับคนไทย จำนวน 42 คน ขณะเตรียมลักลอบเดินทางกลับประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ภายหลังพ้นเส้นตายที่อนุโลมให้บุคคลที่พำนักในประเทศมาเลเซียเกินกำหนดจากสถานการณ์โควิด-19 และผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียภายในวันที่ 21 เม.ย.64



         เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำคนไทยที่เป็นผู้ชาย จำนวน 32 คน ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน ส่วนผู้หญิง จำนวน 10 คนนำไปสอบสวนที่สถานีตำรวจปาเสมัส รัฐกลันตัน เจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู ได้เข้าเยี่ยมคนไทยทั้งหมดแล้ว



         สำหรับคนไทย จำนวน 42 คนที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ ได้เตรียมลักลอบเดินทางกลับประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายช่วงค่ำวันที่ 21 เม.ย.64 หลังด่านพรมแดนรันเตาปันยัง ปิดทำการ โดยติดต่อนายหน้าทางมาเลเซีย เสียค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 6,000 บาท เดินทางมาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรับคนไทยตามรายทางมาจนถึงเมืองรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน โดยมีการถือเอกสารปลอมที่ได้รับจากนายหน้าด้วย เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านค้าปลอดภาษี รันเตาปันยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียได้แสดงตัวและจับกุมคนไทยทั้งหมดตามมาตรการจับกุมผู้ที่พำนักในมาเลเซียเกินกำหนด และผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยทั้งหมดจะเข้ากระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างน้อย 14 วัน และอาจถูกตัดสินจำคุกอย่างน้อย 3 เดือน



         ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย จึงขอเน้นย้ำให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย ห้ามหลงเชื่อผู้ที่แอบอ้างจะเข้าช่วยเหลือ รวมทั้งห้ามปลอมแปลงเอกสารทางราชการปลอมเพราะจะมีโทษในคดีอาญาอย่างหนัก



          สำหรับบุคคลใดที่มีเอกสารการเดินทางครบถ้วน ขอให้ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ แต่หากเอกสารการเดินทางหมดอายุ หรือ ไม่เคยมีเอกสารการเดินทางใดๆเลย ขอให้ติดต่อศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงการต่างประเทศ ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง หรือ ติดต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งนายอำเภอสุไหงโก-ลกได้มอบหมายให้นายกิริยา อาแซ เจ้าหน้าที่ปกครองที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลกเป็นผู้รับผิดชอบประสานงานคนไทยในประเทศมาเลเซียที่มีความประสงค์จะกลับเข้ามาในราชอาณาจักร โดยสามารถติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-7677008 โดยศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยเพื่อให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องเสี่ยงถูกจับกุมดำเนินคดีในประเทศมาเลเซีย



 

ข่าวทั้งหมด

X