ภารกิจช่วยลูกเรือ 53 ชีวิตสำคัญที่สุด ขณะใกล้เส้นตายเรือดำน้ำขาดออกซิเจน
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามสูงสุดในการค้นหาและกู้เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 มีความยาว 60 เมตร พร้อมกับความเร็ว 21.5 น็อต สร้างขึ้นที่เยอรมนีเมื่อปี 2524 ขาดการติดต่อตั้งแต่ตั้งแต่เช้ามืดวันพุธที่ 21 เม.ย.64 การช่วยชีวิตลูกเรือเป็นภารกิจสำคัญที่สุด และเขายังได้แสดงความเห็นใจครอบครัวของลูกเรือที่ต้องเผชิญชะตากรรมอยู่ในขณะนี้
เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 พร้อมลูกเรือ 53 คน ได้สูญหายไป หลังจากที่ได้ปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดในทะเลใกล้เกาะบาหลี โดยเรือดำน้ำได้ขาดการติดต่อ หลังจากที่ได้รับอนุมัติให้ดำลงไปในทะเลน้ำลึก และคาดกันว่าเรือได้จมลง ขณะอยู่ที่ระดับความลึก 700 เมตร ห่างจากตอนเหนือของเกาะบาหลีราว 60 ไมล์
กองทัพเรืออินโดนีเซีย ได้แจ้งต่อญาติและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกเรือของเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ว่า พวกเขาไม่ควรตั้งความหวังสูงเกินไปเกี่ยวกับโอกาสรอดชีวิตของลูกเรือ
มีการคาดการณ์กันถึงสาเหตุที่ทำให้เรือดำน้ำดังกล่าวสูญหายไป ซึ่งอาจเกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรืออาจเกิดการระเบิดดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับเรือดำน้ำ Kursk ของรัสเซียเมื่อเดือนส.ค.2543 จนทำให้ลูกเรือทั้งหมด 118 คนเสียชีวิต
โฆษกกองทัพเรืออินโดนีเซีย กล่าวว่า เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ขับเคลื่อนด้วยพลังงานดีเซล สามารถอยู่ได้ที่ระดับความลึก 250-500 เมตร แต่หากเรือดำน้ำจมลงในระดับความลึกที่มากกว่านั้นก็จะเป็นเรื่องที่อันตรายมาก มีความเป็นไปได้ในขณะที่เรือได้ดำดิ่งลง ก็เกิดปัญหาไฟฟ้าดับ จนทำให้ควบคุมเรือไม่ได้ และทำให้เรือจมลงสู่ระดับความลึก 600-700 เมตร
ด้านพลเรือเอกยูโด มาร์โกโน ผู้บัญชาการกองทัพเรืออินโดนีเซีย กล่าวว่า เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 มีออกซิเจนเพียงพอสำหรับลูกเรือเพียง 72 ชั่วโมง ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าดับ เพียงพอจนถึงวันเสาร์นี้เวลา 03.00 น.
กองทัพอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวใต้น้ำ ซึ่งมีความเร็ว 2.5 น็อตใกล้กับจุดที่เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ปฏิบัติภารกิจ แต่ต่อมาสัญญาณก็ขาดหายไป จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำ
นอกจากนี้ การที่เจ้าหน้าที่พบคราบน้ำมันในทะเลใกล้เกาะบาหลี ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นน้ำมันจากเรือดำน้ำลำดังกล่าว
ขณะนี้มีหลายประเทศได้เสนอความช่วยเหลือต่อรัฐบาลอินโดนีเซียแล้ว ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อินเดีย ตุรกี
ขณะที่ คาดว่าเรือ MV Swift Rescue ซึ่งเป็นเรือในภารกิจกู้เรือดำน้ำของกองทัพเรือสิงคโปร์ จะเดินทางมาถึงบริเวณน่านน้ำเกาะบาหลีในวันเสาร์นี้ ส่วนเรือ Rescue Mega Bakti Malaysia ของกองทัพเรือมาเลเซีย จะเดินทางมาถึงในวันจันทร์
กองทัพเรืออินโดนีเซีย มีเรือดำน้ำจำนวน 5 ลำ โดย 2 ลำสร้างจากเยอรมนี และอีก 3 ลำสร้างจากเกาหลีใต้
พบวัคซีนปลอมของบ.ไฟเซอร์ในเม็กซิโกและโปแลนด์
บริษัทยาไฟเซอร์สหรัฐฯ แถลงยืนยันล่าสุดว่า พบวัคซีนโควิด-19ปลอมติดป้ายไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคขายในเม็กซิโกและโปแลนด์ กำลังเร่งตรวจสอบ
วอลสตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ประชาชนราว 80 คนในคลินิกแห่งหนึ่งของเม็กซิโก ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอม ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค แต่ดูเหมือนว่าสารที่อยู่ด้านในไม่ทำอันตรายร่างกาย แต่ไม่เกิดผลในการป้องกันโรคไวรัสโคโรนา
วัคซีนไฟเซอร์ปลอม ประกาศขายทางโซเชียลมีเดียและราคาขายสูงสุดที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดหนักในประเทศ เม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ปลอมที่พบในเม็กซิโก เป็นการติดฉลากปลอม
ส่วนที่พบในโปแลนด์ เดลีเมล สื่อ อังกฤษ เปิดเผยว่า มีการผสมสารรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นแทนที่จะเป็นวัคซีนรักษาโรค
เกาหลีใต้ เล็งใช้ "สปุตนิก ไฟว์" จากรัสเซีย วัคซีนขาดแคลน
เกาหลีใต้ อาจติดต่อซื้อวัคซีนสปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของรัสเซีย กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยา (MFDS) ของเกาหลีใต้ ระบุว่า จะเก็บรวบรวมข้อมูลการทดสอบทางคลินิกของสปุตนิก ไฟว์ เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว และได้ขอให้กระทรวงต่างประเทศและคณะผู้แทนในต่างประเทศรวบรวมข้อมูลจากประเทศต่างๆ ที่มีการใช้วัคซีนสปุตนิก ไฟว์ ด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ ประธานาธิบดีมูน แจ อินได้สั่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้วัคซีนของรัสเซียท่ามกลางความกังวลว่า การขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อาจทำให้เกาหลีใต้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนพ.ย.ปีนี้ได้
ปัจจุบัน เกาหลีใต้ใช้วัคซีนของ 2 บริษัทได้แก่ไฟเซอร์และแอสตราเซเนกา โดยฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วเกือบ 2,000,000 คน จากทั้งหมด 52,000,000 คน
สิงคโปร์ กักแรงงานต่างชาติตรวจเชื้อโควิด
สิงคโปร์ กักกันแรงงานต่างชาติกว่า 1,100 คน หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่กว่าสิบคนในหอพัก จึงต้องสอบสวนโรคใหม่ว่าอาจมีการติดเชื้อใหม่ในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว
ผู้บริหารหอพักในประเทศสิงคโปร์ ได้ทำจดหมายแจ้งให้ผู้ที่อยู่ในหอพักรับทราบว่าแรงงานต่างชาติกว่า 1,100 คนในหอพัก ต้องถูกกักกันโรคภายในสถานกักกันโรคของรัฐ เป็นเวลา 14 วัน หลังตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่กว่า 10 คนในหอพัก เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้ามาสอบสวนโรค เพื่อตรวจหาความเป็นไปได้ว่าจะมีการติดเชื้อรายใหม่ขึ้นมาอีกในกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วก็ตาม
รายงานระบุว่า แรงงานคนแรกที่ติดเชื้อ อยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นการติดจากเพื่อนที่พักอยู่ด้วยกัน
วันนี้ นายกฯ ญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินโตเกียว-เกียวโต-โอซากา-เฮียวโงะ
รัฐบาลญี่ปุ่น จะประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับกรุงโตเกียว เกียวโต โอซากา และเฮียวโงะ ในวันนี้ นายโยชิฮิเดะ สึกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังประชุมร่วมกับคณะทำงานแก้ปัญหาโควิด-19 โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-11 พ.ค.64
การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ เป็นรอบที่ 3 หลังจากที่มีการประกาศก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว และเดือนม.ค.ในปีนี้
การประกาศภาวะฉุกเฉินจะทำให้มีการปิดร้านอาหารและผับบาร์เป็นการชั่วคราว รวมทั้งปิดศูนย์การค้าที่มีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางฟุต ยกเว้นแผนกที่ขายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต นอกจากนี้ จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิของประชาชนก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่สถานีขนส่งขนาดใหญ่
พบชายวัย 30 ปี ร่วมวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก โตเกียว ติดเชื้อ
คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก จากการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกทั่วประเทศ
คณะกรรมการโตเกียวโอลิมปิก กล่าวว่า ชายไม่ระบุชื่อ อายุ 30 กว่าปี และเข้าร่วมในการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกที่เกาะชิโกกุ ทางตะวันตกของประเทศ มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นบวก แต่ไม่ได้ระบุว่า ชายคนนี้มีบทบาทอะไรในการวิ่งคบเพลิง
คณะกรรมการโตเกียวโอลิมปิกให้คำมั่นจะร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ในการเตรียมการที่จำเป็น เป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อนเพื่อให้การวิ่งคบเพลิงเป็นไปอย่างปลอดภัย
การพบเชื้อครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก ซึ่งบางจุดในบางพื้นที่ต้องไปวิ่งนอกถนนสาธารณะด้วยหวั่นเกรงว่าจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อไวรัสได้
เมืองเกียวโต ซึ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์เป็นสถานที่ล่าสุดที่อาจต้องปรับแผนการวิ่ง สื่อท้องถิ่น รายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นของเกียวโต จะขอให้วิ่งคบเพลิงโดยไม่ใช้เส้นทางที่เป็นถนนสาธารณะ โดยเสนอให้วิ่งคบเพลิงภายในปราสาทนิโจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกแทน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การวิ่งคบเพลิงจัดขึ้นในเส้นทางปิดในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองโอซากา
ขณะที่จังหวัดโอกินาวา ทางภาคใต้และเมืองมัตสุยามะ ทางตะวันตกก็ยกเลิกการวิ่งคบเพลิงตามถนนสาธารณะไปแล้ว เนื่องจากเกรงเรื่องการระบาดของโควิด-19
ผู้จัดโตเกียวโอลิมปิก ยืนยันว่า การวิ่งคบเพลิง ซึ่งมีนักวิ่งเข้าร่วมประมาณ 10,000 คน ผ่าน 47 จังหวัดของญี่ปุ่นสามารถจัดได้อย่างปลอดภัยภายใต้แนวทางป้องกันไวรัสอย่างเข้มงวด
แคนาดา ระงับเที่ยวบินโดยสารจากอินเดียและปากีสถาน
แคนาดาประกาศห้ามเที่ยวบินโดยสารจากอินเดียและปากีสถานเดินทางเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่มีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19
มาตรการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น (10.30 น.วันที่ 23 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย) และไม่มีผลต่อเที่ยวบินขนส่งสินค้า
เมื่อวันพฤหัสบดี อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในโลกคือ 314,835 คน ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถของระบบบริการสุขภาพในการรับมือกับผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
นางแพตตี ฮัจดู รัฐมนตรีสาธารณสุขของแคนาดา กล่าวว่า พลเมืองอินเดียมีสัดส่วนร้อยละ 20 ของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแคนาดา แต่มากกว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขามีผลการทดสอบที่สนามบินในเชิงบวก การกำจัดการเดินทางโดยตรงจะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขมีเวลาในการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ด้านนายโอมาร์ อัลกาบรา รัฐมนตรีคมนาคมกล่าวว่าแคนาดาจะไม่ลังเลที่จะออกข้อจำกัดเที่ยวบินจากชาติอื่นๆ หากมีความจำเป็น