รัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ออกประกาศให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เคยเข้าพักในโรงแรมกักกันโควิด-19 ทุกคนเข้ารับการทดสอบทันทีและแยกกักกันตน ขณะที่มีการสอบสวนกรณีที่มีการติดเชื้อระหว่างผู้เข้ารับการกักกันตัวซึ่งพักอยู่ในห้องพักที่อยู่ใกล้เคียง
ออสเตรเลียใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโดยให้ปิดพรมแดนมากว่า 1 ปี อนุญาตเฉพาะพลเมืองของตนและผู้อยู่อาศัยถาวรเข้าประเทศ แต่จะต้องเข้ารับการกักกันที่โรงแรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์โดยออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย รายงานว่า พบการการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ที่เข้ารับการกักกันตัวในโรงแรมที่ซิดนีย์และเพิร์ธ
โดยเมื่อวันอาทิตย์ (18 เม.ย.) เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่าจะมีการสอบสวนกรณีที่มีสมาชิกครอบครัว 3 คนที่กักกันตัวอยู่ในโรงแรมที่ซิดนีย์ มีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อของอีกครอบครัวหนึ่งจำนวน 4 คนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ทั้งหมดพักอยู่ในห้องพักใกล้เคียงกัน ซึ่งนางเคอร์รี่ แชท หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบเชื้อไวรัสโคโรนา ของผู้ป่วย 2 กลุ่มพบว่าพวกเขาติดเชื้อไวรัสที่มีลำดับพันธุกรรมเดียวกัน ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อไปยังแขกผู้เข้าพักในโรงแรมคนอื่น ๆ ตลอดจนผู้ที่กักกันตนเองในโรงแรมแล้วมีผลการทดสอบในเชิงลบเมื่อครบเวลา 14 วัน อาจแพร่กระจายเชื้อในชุมชน
ส่วนที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) มีการรายงานพบผู้กักกันตัว 2 กลุ่มที่เข้าพักในโรงแรมเพิร์ธในห้องตรงข้าม แต่ติดเชื้อไวรัสที่มีลำดับพันธุกรรมเดียวกันแม้ว่าจะเดินทางมาจากต่างประเทศในเวลาที่ต่างกัน
สถานการณ์ของโควิด-19 ในออสเตรเลียดีกว่าประเทศพัฒนาแล้วอีกหลายประเทศ โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสมมากกว่า 29,500 คนและเสียชีวิต 910 ราย ขณะที่การดำเนินโครงการฉีดวัคซีนมีอุปสรรคสำคัญ โดยในวันนี้ (22 เม.ย.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อออกมาตรการเร่งรัดให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีเข้ารับการวัคซีน
...