ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 42 คน ศบค.ห่วงเคสสมุทรปราการ-ห้องกัก ตม. เร่งกระจายวัคซีนเพิ่ม

          พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การติดเชื้อประจำวันที่ 31 มี.ค.64

1.ผู้ป่วยรายใหม่ 42 คน แบ่งเป็น

     - จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ  19  คน

     - จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 5   คน

     - ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน  16 คน

     - ผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ   2 คน (หญิงไทยทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเข้าสถานกักกันและตรวจพบเชื้อแบบไม่มีอาการ)

2.ผู้ป่วยยืนยันสะสม  28,868 คน

3.รักษาหายแล้ว 27,426  คน

4.เสียชีวิตสะสม 94 ราย

          เมื่อแบ่งเป็นรายจังหวัด จะพบว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 คน ส่วนกรุงเทพมหานคร มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10  คน   ที่น่าสังเกตคือ มีเด็กและเยาวชนที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยเป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว

          ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีความเป็นห่วงกรณีการติดเชื้อที่จังหวัดสมุทรปราการ  เริ่มจากหญิงไทย ที่ทำงานในสถานกักกัน ASQ ในกรุงเทพฯ  อายุ 28 ปี มีหน้าที่ประกอบอาหาร เสิร์ฟอาหารและเก็บขยะจากผู้กักตัว ซึ่งบางครั้งไม่สวมถุงมือในการปฎิบัติงานและไม่ล้างมือหลังจากปฎิบัติงานแล้ว ถือว่ามีพฤติกรรมไม่ระวังตัว ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน  ในจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงนี้ พบว่ามี 1 คน ที่ติดเชื้อ  เป็นเพื่อนร่วมงานหญิง อายุ 25 ปี กลายเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 2 ซึ่งผู้ติดเชื้อรายนี้ นำเชื้อไปแพร่ยังคนในครอบครัวและคนรอบข้างอีก เช่น น้องสาว ลูกชายอายุ 1ขวบ 7เดือน และพี่เลี้ยงเด็ก รวมทั้งสามีของผู้ป่วยหญิงรายแรก ก็ติดเชื้อด้วย  ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมโรคและสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการกำลังเร่งสอบสวนโรคเพิ่มเติม ถือเป็นกรณีศึกษาให้ประชาชนระมัดระวังตัว 

          ส่วนการติดเชื้อภายในห้องกักบางเขน ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบว่านอกจากผู้ต้องกักที่ติดเชื้อแล้ว ยังมีการแพร่ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติหน้าที่ คือ ตำรวจ 3 นาย  และยังมีบุคลากรที่ทำงานในห้องกัก เช่น แม่ครัว ที่อยู่แผนกปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารให้ผู้ต้องกัก หรือแม่บ้านที่ทำความสะอาด ก็ติดเชื้อไปด้วย จึงนำไปสู่การวางแผนกระจายวัคซีนให้กับบุคลากรส่วนต่างๆ ในหลายสาขา ที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสโรค

          โดยวัคซีนซิโนแวค จำนวน 800,000 โดส ที่จะกระจายในเดือนเมษายนนี้

- จัดสรรให้พื้นที่ที่มีการระบาด เช่น สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ตาก ปทุมธานี สมุทรปราการ และนนทบุรี จำนวน 350,000 โดส  

- จัดสรรให้จังหวัดท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จำนวน 240,000 โดส ใน 8 จังหวัด คือ ชลบุรี (รวมพัทยา) ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น กระบี่ พังงา  เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  ภูเก็ต   

-จัดสรรให้ 8 จังหวัดชายแดน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จำนวน 50,000 โดส คือ สงขลา สระแก้ว เชียงราย มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย และจันทบุรี

          นอกจากนี้ ยังจัดสรรเพิ่มเติมอีก 160,000 โดส กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมาย 52 จังหวัด โดยจะกระจายในประชาชนทั่วไปและอาสาสมัครที่ต้องทำหน้าที่ควบคุมโรค แบ่งเป็น

-จังหวัดขนาดเล็ก จำนวนประชากรน้อยกว่า 1,000,000 คน จำนวน 1,800 โดส (ประชาชน 800 โดส- อาสาสมัคร 1,000 โดส)

-จังหวัดขนาดใหญ่ จำนวนประชากรมากกว่า 1,000,000 คน– 1,500,000 คน จำนวน 2,000 โดส (ประชาชน 1,000 โดส- อาสาสมัคร 1,000 โดส)

-จังหวัดขนาดใหญ่พิเศษ จำนวนประชากรมากกว่า 1,500,000 คน จำนวน 2,200 โดส (ประชาชน 1,200 โดส- อาสาสมัคร 1,000 โดส)