หลายประเทศในยุโรปขยายมาตรการควบคุมโควิด ขณะที่ฝรั่งเศสเข้าสู่สถานการณ์ขั้นวิกฤต

          หลายประเทศในยุโรปเพิ่มมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น จนสร้างความกดดันต่อระบบการดูแลสุขภาพ

          เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) รัฐบาลฝรั่งเศสระบุว่า สถานการณ์ในประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต และเพิ่มข้อจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้น โดยประชาชนประมาณ 20 ล้านคนรวมถึงผู้ที่อยู่ในภูมิภาคปารีสที่มีผู้ป่วยจำนวนมากจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไกลจากบ้านเกิน 10 กม. เว้นแต่จะมีเหตุผลสำคัญ ร้านขายอาหาร ร้านหนังสือและดนตรียังเปิดให้บริการ แต่ห้องเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายจะมีนักเรียนเข้าเรียนในห้องเพียงครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งต้องเรียนผ่านการสื่อสารทางไกล

          ส่วนที่เบลเยียมให้ปิดธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสร่างกายที่ไม่ใช่ทางการแพทย์ เช่นร้านทำผมเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ร้านค้าอื่น ๆ สามารถรับลูกค้าได้ตามนัดหมายเท่านั้น

          ที่โปแลนด์ให้ปิดร้านค้า สนามเด็กเล่น ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านเสริมสวยและร้านตัดผม นายกรัฐมนตรีแห่งโปแลนด์ขอให้ประชาชนใช้เวลาช่วงวันหยุดอีสเตอร์ที่กำลังจะมาถึงที่บ้านกับครอบครัวใกล้ชิด

          และที่ฮังการีนายกรัฐมนตรียังไม่ผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัด เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โรงพยาบาลอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก

          เมื่อวันศุกร์ (26 มี.ค.) องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประเทศยากจน แต่ขณะนี้ประเทศร่ำรวยในสหภาพยุโรปก็ยังมีวัคซีนไม่เพียงพอต่อการใช้งานในประเทศ อย่างไรก็ตาม มีโรงงานผลิตยา 52 แห่งภายในกลุ่มได้เข้าร่วมในกระบวนการผลิตวัคซีน ทำให้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ยุโรปจะเป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตวัคซีน โดยมีกำลังการผลิตระหว่าง 2 ถึง 3 พันล้านโดส 

....