ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564

24 มีนาคม 2564, 07:56น.



โปรดเกล้าฯ 4 รัฐมนตรี ครม. ประยุทธ์ 2/4  



          ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่   



1.นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เป็น รมช.คมนาคม



2.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม



3.นายสินิตย์ เลิศไกร เป็น รมช.พาณิชย์



4. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เป็น รมว.ศึกษาธิการ



-นายชัยวุฒิ วัย 49 ปี  เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาจากสิงห์บุรี ทำงานการเมืองลงเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2544 เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทย ก่อนที่จะมาช่วยพรรคพลังประชารัฐ



-นายสินิตย์ อายุ 56 ปี เป็น ส.ส.5 สมัยจากสุราษฎร์ธานี ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ ส.ส.สายใต้ ให้การสนับสนุนเต็มที่ จบการศึกษาปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต (เทคโนโลยีการเกษตร) วิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี และ ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)



-น.ส.ตรีนุช  รัฐมนตรีหญิงหน้าใหม่แซงโค้ง อายุ 48 ปี หลานสาวของ ป๋าเหนาะ นายเสนาะ เทียนทอง นักการเมืองรุ่นเก๋า จบการศึกษาปริญญาโท Master of Arts WESTERN ILLINOIS UNIVERSITY ประเทศสหรัฐฯ เป็น นักธุรกิจ และเป็น ส.ส. 4 สมัย ปัจจุบันเป็น ส.ส. เขต 2 จังหวัดสระแก้ว



          รัฐมนตรีใหม่ทั้ง 4 คน จะต้องเข้ารับการถวายสัตย์ปฎิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งใหม่และเริ่มการทำงาน  การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 4 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา มาจากคำพิพากษาศาลอาญา ทำให้ 3 รัฐมนตรี โควต้า กปปส. ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้ง 2 พรรค ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ



27-28 พ.ค. สภาฯ พิจารณางบประมาณรายจ่าย 2565



          คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ที่หน่วยงานต้นสังกัดนำกลับไปปรับปรุงแล้วครั้งหนึ่ง จากนี้ สำนักงบประมาณจะรับฟังความเห็นจากประชาชน ตั้งแต่ 27 มี.ค. - 7 เม.ย.64  จากนั้นสำนักงบประมาณ จะจัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2565 ส่งกลับมาให้ ครม.เห็นชอบอีกครั้ง และคาดว่าวันที่ 27-28 พ.ค.64 รัฐบาลจะส่งร่างนี้ให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณา



ปรับเกณฑ์ เที่ยวด้วยกัน 3 สแกนใบหน้าป้องกันโกง



          น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 โครงการ



-ทัวร์เที่ยวไทย : รัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินแบบร่วมจ่ายร้อยละ 40 ไม่เกินคนละ 5,000 บาท กำหนดวิธีการคือจะต้องซื้อแพ็กเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ในประเทศ 3 วัน 2 คืน ราคาขั้นต่ำ 12,500 บาท โดยต้องไปเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา คือ วันอาทิตย์พฤหัสบดี ซึ่งผู้มีสิทธิต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค.64 กำหนดเป้าหมายไว้ 1,000,000 คน การจ่ายเงินจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เท่านั้น และต้องสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดรวมถึงสแกนใบหน้าของคนใช้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการต้องมีแอปฯถุงเงินเพื่อรับชำระด้วย ถือเป็นระบบตรวจสอบที่จะเอามาใช้ตรวจสอบการทำโครงการเพื่อป้องกันทุจริต



-เราเที่ยวด้วยกันระยะที่ 3 :เพิ่มสิทธิการเข้ามาใช้ห้องพักอีก 2,000,000 สิทธิ โดยต้องจองห้องพักล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เริ่มในเดือน พ.ค.-ส.ค. 64 ขณะที่บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เวาเชอร์) ที่เคยให้วันธรรมดาคนละ 900 บาทต่อวัน และวันศุกร์-อาทิตย์ คนละ 600 บาทต่อวัน จะปรับเหลือราคาเดียวคือคนละ 600 บาทต่อวัน และกำหนดให้ใช้บริการแบบข้ามจังหวัดเท่านั้น ที่เข้มงวดขึ้น คือ ต้องมีการสแกนใบหน้าผู้ใช้บริการและแจ้งข้อมูลตำแหน่งจีพีเอสด้วย มาตรการที่ออกมาจะไม่ทันช่วงสงกรานต์เพราะต้องทำระบบรองรับการทุจริต



CR:เฟซบุ๊ก น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล



26 มี.ค.หารือ โมเดล แซนด์บ๊อกซ์ นำร่อง ภูเก็ต-พัทยา



          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โมเดลแซนด์บ๊อกซ์ทดลองเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบจับคู่เที่ยวระหว่างประเทศ หรือ ทราเวล บับเบิล  ขณะนี้พิจารณานำร่อง 2 พื้นที่หลัก จ.ภูเก็ต และ พัทยา จ. ชลบุรี รวม 5 พื้นที่ โดยรอบ เงื่อนไขสำคัญในการทำแซนด์บ๊อกซ์ คือ คนในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อยร้อยละ 70 ขึ้นไป รวมถึง กำหนดให้ต่างชาติที่จะเข้ามาต้องอยู่ในพื้นที่แซนด์บ๊อกซ์ไม่สามารถออกนอกพื้นที่ได้  คาดว่า จะเริ่มนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ในวันที่ 1 ก.ค.64



          หลักสำคัญอยู่ที่วัคซีนต้านโควิด-19 และการพิจารณาของกระทรวงสาธารณสุข ที่หากนำเข้ามา และกระจายฉีดให้คนในพื้นที่ได้เร็วมากเท่าใด ก็จะนำต่างชาติเข้ามาเที่ยวในแซนด์บ๊อกซ์ได้เร็วเท่านั้น และหากวัคซีนเข้ามามากเพียงพอ ก็อาจพิจารณาเพิ่มพื้นที่ในการทำแซนด์บ๊อกซ์อีกก็เป็นได้



คนละครึ่งเฟส 3 มาเดือน พ.ค.



          น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ซึ่งจะไม่ทำต่อทันทีหลังจบเฟส 2 ในสิ้นเดือนมี.ค.64 คาดว่าโครงการจะออกมาได้หลังจากที่โครงการเราชนะ และ ม 33 เรารักกัน สิ้นสุดในช่วงเดือน พ.ค.64 โดยผู้ได้รับสิทธิรายเดิม อาจจะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก มีข้อมูลในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว




คาด กนง.คงดอกเบี้ย ลุ้นมาตรการพยุงเศรษฐกิจ



          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในวันนี้ว่าจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50  มองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปัจจัยต่างๆ



-วัคซีนโควิด-19 ทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศ ถึงไทยแล้วจำนวน 2 ล็อต และจะทยอยเข้ามาเพิ่มเติมตามแผนการจัดหาวัคซีนของไทย



-รัฐบาลมีมาตรการทางการคลังเพิ่มเติม เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 2 โครงการเราชนะ และโครงการเรารักกัน การต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ การลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ การลดค่างวดผ่อนชำระ รวมถึงล่าสุดการปรับเกณฑ์ลดอัตราดอกเบี้ยผิดสัญญาเงินกู้-ผิดนัดชำระหนี้




          การประชุม กนง.รอบนี้ จะมีการทบทวนประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยรอบใหม่ คาดว่า อาจมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ลดลงเล็กน้อยจากการประเมินในรอบเดือน ธ.ค.63 ยังไม่มีความจำเป็นในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในระยะอันใกล้นี้  



          จากประมาณการณ์ครั้งล่าสุด กนง. มองว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัว 3.2 ซึ่งการประเมินดังกล่าวยังไม่ได้รวมผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า กนง.อาจมีการปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจในการประชุมวันนี้ อย่างไรก็ดี จากปัจจัยบวกที่มีเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเพิ่มเติม คาดว่า กนง. น่าจะปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเพียงเล็กน้อย จึงเป็นการสนับสนุนการคาดการณ์การคงดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ไว้ที่ร้อยละ 0.50




 

ข่าวทั้งหมด

X