นายทามิ สคอฟฟ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของสหรัฐฯ หนึ่งในคณะทำงานในโครงการวัคซีนของสหรัฐฯที่รับผิดชอบการกำหนดแนวทางปฏิบัติทางคลินิกสำหรับผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว เปิดเผยว่า 2 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนแล้ว รัฐบาลอนุญาตให้ผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือฉีดเพียงเข็มเดียวเช่นในกรณีของวัคซีนจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันของสหรัฐฯ สามารถจะเดินทางไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนๆที่ยังไม่ฉีดวัคซีนได้ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC)ของสหรัฐฯแนะนำให้พวกเขาไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนๆที่ยังไม่ฉีดวัคซีนในระยะแรกๆนี้เพียงครั้งละหนึ่งบ้าน
ขณะเดียวกัน CDC กำชับให้บรรดาคุณปู่คุณย่าที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ควรพาลูกหลานที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไปยังสถานที่สาธารณะเช่น ไปโบสถ์ หรือสถานที่ที่มีคนแออัด เพราะเสี่ยงทำให้ลูกหลานติดโรคโควิด-19 ทั้งนี้ CDC จะปรับปรุงข้อมูลเรื่องนี้ทางเว็บไซต์ต่อไป ทันทีที่มีข้อมูลใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม แต่ในขณะนี้ CDC มั่นใจว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ติดโรคโควิด-19 จากคนป่วยอื่นๆ ทั้งมีความเป็นไปได้น้อยมากที่คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ไปสู่คนอื่นๆ
ส่วนกรณีคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนอยู่บ้านคนเดียว หรือสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนๆที่ยังไม่ฉีดวัคซีน มีความเสี่ยงต่ำต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในกรณีเช่นนี้ CDC ไม่ได้กำหนดมาตรการพิเศษ คืออนุญาตให้ผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถพบปะญาติหรือเพื่อนๆที่ยังไม่ฉีดวัคซีนภายในอาคารบ้านเรือน โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรืออยู่ใกล้กันโดยไม่เว้นระยะห่างก็ได้ ถ้าพวกเขาประเมินจากภายนอกหรือจากการตรวจอุณหภูมิแล้วเห็นว่า ญาติหรือเพื่อน มีความเสี่ยงต่ำในการติดโรคโควิด-19
ที่ผ่านมา ประชาชน 24,900,000 คนในสหรัฐฯฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ขณะที่ประชาชนอีก 13,500,000 คนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยในปัจจุบัน สหรัฐฯมีอัตราการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเฉลี่ย 2,489,69 คนต่อวัน ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯคาดว่าจะใช้เวลาอีก 5 เดือน ร้อยละ 75 ของประชากรทั้งหมดของสหรัฐฯจะได้รับการฉีดวัคซีน
Cr: CNN, Bloomberg, AARP