พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)ได้ประชุมร่วมกับ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข,นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค,โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการวางแผนควบคุมป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ในกลุ่มผู้ลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ที่ถูกกักในห้องกักบางเขนและสวนพลู รวมทั้งการตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ต้องกักที่ตรวจพบเชื้อเกือบ 400 คน
การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่อาคารโรงยิมกองสวัสดิการตำรวจ ในสโมสรตำรวจ จะนำโมเดลมาจากโรงพยาบาลสนามที่สมุทรสาคร รวมทั้งนำโมเดลการดูแลผู้ต้องกักที่ติดเชื้อจากด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา โดยกระทรวงสาธารณสุข จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลสนามในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.64)
สำหรับจำนวนผู้ต้องกัก ที่ห้องกักบางเขน มี 490 คน ห้องกักสวนพลู มี 1,125 คน รวมทั้งหมด 1,615 คน ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 393 คน รวมทั้งมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสัมภาระผู้ต้องกัก ติดเชื้อ 1 นาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่นิ่ง เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่า เป็นซากเชื้อตายหรือไม่ ซึ่งจะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้
ส่วนมาตรการควบคุมโรคและรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลสนาม จะปฎิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานภายในโรงพยาบาลสนาม จะมีชุด PPE ให้ใส่ป้องกันโรค โดยเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าปฎิบัติหน้าที่ภายในโรงพยาบาลสนาม ดูแลผู้ป่วยใกล้ชิดนั้น ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และจะฉีดเข็มที่สองในวันที่ 9 เม.ย.นี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านนอกโรงพยาบาล ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในช่วงบ่ายนี้ทุกคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรที่มาปฎิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลสนาม จะมีที่พักให้เฉพาะ เพื่อกักตัวไม่ให้ออกไปยังชุมชนด้านนอก
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคได้เข้าไปร่วมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดกำลังแพทย์พยาบาลของกรมควบคุมโรคเข้าไปปฎิบัติหน้าที่ภายในโรงพยาบาลสนาม โดยก่อนหน้านี้ มีการพิจารณาความเหมาะสมของสถานที่แล้ว พบว่ามีความเหมาะสมที่จะทำเป็นโรงพยาบาลสนาม เพราะเป็นส่วนที่แยกออกมาจากชุมชน มีระบบการระบายอากาศและการป้องกันการแพร่เชื้อที่ดี รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขมีประสบการณ์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามมากว่า 10 แห่ง ที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่นๆ ซึ่งจะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนการดูแลสุขภาพของผู้ต้องกักและการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อไปยังโรงพยาบาลสนาม จะยึดหลักของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการประเมินความเสี่ยงของผู้ต้องกักแต่ละคน เช่น ผู้มีโรคประจำตัว มีอายุมาก มีสภาวะการติดเชื้อหรือพบเชื้อมาก ก็จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ รวมทั้งแบ่งกลุ่มผู้ติดเชื้อเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ติดเชื้อใหม่ จะต้องประเมินอาการอย่างต่อเนื่องใกล้ชิดและลดการแพร่เชื้อไปยังคนอื่น
กลุ่มที่ติดเชื้อมาระยะหนึ่ง เช่น 7-10 วันขึ้นไป จะมีเชื้อน้อยลง แต่ยังต้องติดตามอาการและป้องกันการแพร่เชื้อ
กลุ่มที่เคยติดเชื้อมาก่อน อาจจะมีซากเชื้อที่ตายแล้วในร่างกาย ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องตรวจคัดแยกอีกครั้ง เพราะอาจจะเป็นกลุ่มที่หายดีแล้ว
เบื้องต้นผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบเป็นแบบไม่มีอาการ ดังนั้นโอกาสที่จะมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจะมีน้อย แต่ก็ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด มีการวัดไข้ ดูค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เพื่อประเมินว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทางเดินหายใจหรือที่ปอดหรือไม่ หากใครมีอาการเพิ่มขึ้น ก็จะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล
ส่วนการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่บุคลากรทั้งของทีมแพทย์พยาบาลและตำรวจ จะได้รับชุดป้องกัน PPE เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและป้องกันการแพร่เชื้อต่อ จึงขอให้ประชาชนสบายใจ ไม่ต้องกังวลใจ เพราะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามนี้ เป็นการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุม
ในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ จะจัดแพทย์ พยาบาลไปปฎิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลสนามด้วย โดยจะเป็นบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อยู่แล้ว รวมทั้งจัดทีมรถพยาบาลพร้อมปฎิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีผู้ต้องกักมีอาการแย่ลงต้องนำส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งดูแลฆ่าเชื้อเสื้อผ้าของผู้ต้องกักทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ดังนั้นผู้ต้องกักมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขทุกอย่าง
ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า โรงพยาบาลสนามชั่วคราว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 300 เตียง โดยในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.64) เวลา 16.00 น. กรมควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อให้มั่นใจว่า จะเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยืนยันว่าบุคลากรที่จะเข้าไปปฎิบัติหน้าที่ล้วนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และเคยทำงานในสถานกักกันแห่งอื่นมาก่อน รวมทั้งสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม เป็นโรงยิมอาคารสวัสดิการ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด มีการระบายอากาศที่ดี และไม่มีการใช้เครื่องปรับอากาศ ที่สำคัญคืออยู่ห่างจากชุมชนในระยะที่ปลอดภัย ส่วนขยะภายในโรงพยาบาลสนาม กรุงเทพมหานครจะส่งเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บในลักษณะของขยะติดเชื้อ มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ส่วนการดูแลป้องกันกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองตามชายแดนต่างๆ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประสานกับทุกหน่วยในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีสถานการณ์ทางการเมือง มั่นใจว่า จะสามารถดูแลได้