'หมอมนูญ' เผยอาจมีข่าวดี ยารักษาโควิดแบบกิน-รักษาตัวที่บ้านได้
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” เปิดเผยข่าวดีว่า นอกจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว โลกกำลังฝากความหวังกับยารับประทานตัวใหม่ ชื่อ Molnupiravir ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นยาที่คิดค้นขึ้นเพื่อใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ยาตัวนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบทางคลินิกในคนระยะที่ 2 คาดว่าจะเข้าทดสอบระยะที่ 3 ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
การทดสอบยาตัวนี้ พบว่า สามารถลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดี ลดจำนวนเชื้อไวรัสในคนได้รวดเร็ว ลดความรุนแรงของโรค ช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด และมีผลข้างเคียงต่ำ ส่วนการทดลองในสัตว์ เมื่อให้ยาตัวนี้กับสัตว์ทดลองที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ก็สามารถป้องกันสัตว์ทดลองตัวอื่นๆที่อยู่ใกล้ชิดจากเชื้อไวรัสโควิดได้ ยาตัวนี้จึงอาจนำมารักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกชนิดทั้งชนิดกลายพันธุ์และไม่กลายพันธุ์
นอกจากนี้ ยังมีการทดลองในสัตว์โดยให้ยา Molnupiravir ร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งเป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่อีกชนิด และปัจจุบันถูกนำมารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งพบว่า เมื่อสัตว์ทดลองได้รับยารักษาไข้หวัดใหญ่ทั้งสองชนิดนี้ควบคู่กัน ผลรักษาโควิดในตัวสัตว์ทดลอง ดีขึ้นมากกว่าการให้ยาเพียงตัวเดียว
ยา Molnupiravir หากผ่านการรับรอง ก็จะใช้งานเหมือนกับยาทามิฟลู (Oseltamivir-Tamiflu) และ บาล็อกซาเวีย (Baloxavir-Xofluza) ที่เป็นยากินใช้ทั้งรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ และให้กินเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ในกรณีที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โดยแพทย์จ่ายยาให้ไปกินที่บ้านแบบคนไข้นอก ไม่ต้องรับเข้านอนรักษาในโรงพยาบาล
ยกย่อง เจ้าหน้าที่ ทัลลีย์ เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ต รัฐโคโลราโด
เหตุกราดยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คิง ซูเปอร์ ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐฯ สำนักงานตำรวจเมืองโบลเดอร์ แถลงยืนยันผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างน้อย 10 ราย หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ คือเจ้าหน้าที่เอริค ทัลลีย์ อายุ 51 ปี ปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2553 โดยเจ้าหน้าที่ทัลลีย์ เป็นตำรวจนายแรกที่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งจากจากประชาชนว่าพบชายถือปืนอยู่ภายในซูเปอร์มาร์เก็ตที่เกิดเหตุ ขณะที่ ทุกภาคส่วนร่วมกันยกย่องเจ้าหน้าที่ทัลลีย์ "คือวีรบุรุษ" ของเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ขอสงวนข้อมูลของผู้เสียชีวิตอีก 9 ราย เนื่องจากต้องการประสานงานกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ก่อน เช่นเดียวกัน ข้อมูลเกี่ยวกับมือปืนซึ่งมีเพียงคนเดียว และมีการยืนยันแล้วว่า เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังไม่ได้รับการเปิดเผย โดยตำรวจจับกุมคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุ หลังเผชิญหน้ากันนานหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่มาริส เฮโรลด์ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองโบลเดอร์ ระบุว่า ตำรวจได้ตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา
โฆษกประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุกราดยิงในครั้งนี้แล้ว
อดีตส.ส.สหรัฐฯที่รอดตายจากเหตุกราดยิงเมื่อปี 54 ขอให้ออกกม.ควบคุมอาวุธปืน
จากเหตุกราดยิงที่เมืองโบลเดอร์ ทำให้นางแกเบรียล กิฟฟอร์ดส์ อดีตส.ส.พรรคเดโมแครต จากรัฐอริโซนา หนึ่งในผู้สนับสนุนให้มีการออกกฎหมายเข้มงวดเรื่องอาวุธปืนและเป็นผู้ที่รอดตายจากเหตุกราดยิงที่ศีรษะ บาดเจ็บสาหัส ระหว่างการลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงที่บริเวณลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ต เซฟเวย์ ทางตอนเหนือของเมืองทูซอน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2554 มีคนเสียชีวิต 6 ราย กล่าวว่า เหตุกราดยิงในรัฐโคโลราโด เป็นเครื่องเตือนใจทุกคนอีกครั้งหนึ่งว่า เป็นเวลานานแล้วที่ผู้นำสภาคองเกรสสหรัฐฯควรจะจัดทำกฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องปืนในสังคมสหรัฐฯ พร้อมกล่าวถึงเหตุกราดยิงในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในรัฐโคโลราโดว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้
นางกิฟฟอร์ดส์ กล่าวว่า เธอรอดตายจากเหตุการณ์ยิงในห้าง เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่น่าเศร้า แม้ว่าเหตุการณ์ผ่านมา 10 ปีแล้ว แต่ประชาชนในสหรัฐฯยังคงประสบกับเหตุรุนแรงในลักษณะคล้ายๆนี้ คือเหตุการณ์ในเมืองโบลเดอร์ นอกจากนั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการทำร้ายหญิงอเมริกันเชื้อสายเอเชียในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ด้วย
ชาวฮ่องกง เปลี่ยนไปขอฉีดวัคซีนจากไฟเซอร์แทนซิโนแวค
แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ชาวฮ่องกง ต้องเจอกับปัญหาติดขัด เนื่องจาก ต้องพึ่งพาวัคซีนซิโนแวคที่ผลิตในจีน หลังจากฉีดวัคซีนดังกล่าวจำนวน 160,000 โดส ในระลอกแรก ก็ได้มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 7 ราย และมีผู้ได้รับผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์อีกหลายสิบคน ทำให้ประชาชนหันไปลงชื่อขอฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกอีกตัวเดียวในฮ่องกง
เมื่อเดือนที่แล้ว นางแครี แลม ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคแล้ว นางแลม ยอมรับประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค เป็นอย่างดี แต่หลังจากการฉีดวัคซีนครั้งนั้นเป็นต้นมา ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อทั้งวัคซีนซิโนแวคและแผนการระดมฉีดวัคซีนของรัฐบาลฮ่องกงกลับช้าลง แม้ว่าการสืบสวนของหน่วยงานด้านสาธารณสุขของฮ่องกง จะยืนยันว่า กรณีที่มีผู้เสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนซิโนแวค
นางแลม และ คณะผู้บริหารฮ่องกง ขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนก่อนที่วัคซีนจะหมดอายุ โดยได้ปรับเกณฑ์ผู้ที่สามารถเข้ารับวัคซีนได้ให้เป็นประชาชนอายุ 30-59 ปี ที่มีสุขภาพดีเพื่อให้ครอบคลุมประชาชนจำนวนมากขึ้น
ผลสำรวจความเห็น ที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK) ระบุว่า แม้ในช่วงก่อนหน้านี้ ก็มีชาวฮ่องกงวัยผู้ใหญ่เพียงร้อยละ 37 เท่านั้นที่คาดว่าจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
การที่ฮ่องกงมีสัดส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนน้อยในระดับที่ยังตามหลังสิงคโปร์อยู่ อาจส่งผลให้ฮ่องกงกลับมาเปิดให้เดินทางเข้าพื้นที่ได้ช้ากว่าเมืองใหญ่อื่นๆ ยิ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของฮ่องกง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้วจากทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยเมื่อปี 2562