ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2564

22 มีนาคม 2564, 20:45น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2564



สธ.ห่วงคลัสเตอร์ศูนย์กักเข้าเมือง ตรวจเชิงรุกวันเดียว ติดเชื้อพุ่ง 297 คน



  สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของผู้ต้องกักในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการตรวจตามมาตรฐานต่อเนื่อง นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 6 มี.ค. มีการตรวจผู้ต้องกักชาวเนปาล 1 คน ผลไม่พบเชื้อ ต่อมามีการตรวจซ้ำในวันที่ 11 มี.ค. ก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ขณะเดียวกันก็ตรวจพบผู้ต้องกักรายอื่นติดเชื้ออีก 2คน และพบผู้ต้องกักที่ย้ายมาจากสุไหงโก-ลก ติดเชื้ออีก 6 คน

          เมื่อมีการสอบสวนโรคเพิ่มเติม ในวันที่ 13 มี.ค. มีการตรวจผู้ต้องกักที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากกลุ่มที่มาจากสุไหงโก-ลก 137 คน พบติดเชื้อ 40 คน รวมกับการตรวจผู้ต้องกักแรกรับ 129 คน พบติดเชื้อ 12 คน จากนั้นวันที่ 15 มี.ค. มีการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ต้องกักชาวเนปาล 44 คนและผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำรวมกับเจ้าหน้าที่ 14 คน พบติดเชื้อ 16 คน



          ส่วนจากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ยังไม่เคยได้รับการตรวจในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ตรวจไปทั้งหมด 501 คน พบติดเชื้อ 19 คน วันที่ 19 มี.ค. ตรวจ 549 คน พบติดเชื้อ 2 คน และเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ตรวจเชิงรุก 506 คน พบติดเชื้อ 297 คนซึ่งตัวเลขที่ตรวจพบติดเชื้อในวันที่ 20 มี.ค.ยังไม่ได้รายงานต่อ ศบค.

          สรุปการตรวจเชื้อ ระหว่างวันที่ 6-15 มี.ค. ตรวจทั้งสิ้น 333 คน พบติดเชื้อ 77 คน คิดเป็นร้อยละ 23.1ส่วนผลตรวจวันที่ 18-20 มี.ค. ตรวจทั้งหมด 1,556 คน พบคิดเชื้อ 318 คน คิดเป็นร้อยละ 20.43



          ขณะนี้การป้องกันควบคุมโรคเพิ่มเติม 1.มีการแยกผู้ต้องกักที่ติดเชื้อ ออกจากผู้สัมผัส งดการเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักระหว่างห้อง 2.งดรับผู้ต้องกักใหม่ ใน สตม.สวนพลูและบางเขน 3.ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมจัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่สโมสรตำรวจ ขณะนี้เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับผู้ป่วยประมาณ 120 คน สามารถขยายได้ถึง 250 คน 4.เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสัมผัสกับผู้ต้องกัก ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 70 คน และ 5.กรมควบคุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการควบคุมและป้องกันโรค และมีแผนเข้าตรวจผู้ต้องกักซ้ำอีกใน 7 วันและ 14 วันต่อไป



ผบ.ตร. เปิดโรงพยาบาลสนามตรงข้าม ตม.หลังพบต่างด้าว ติดโควิด 96 คน



          พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจความพร้อม การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราว ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารฝั่งตรงข้ามสนามบุญยจินดา ถนนวิภาวดีรังสิต   โดยโรงพยาบาลสนามดังกล่าว เตรียมไว้รองรับ การรักษาตัวของผู้ต้องกักที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่ง ล่าสุดตรวจพบแล้ว 96 คน เป็นชาย 91 คน และหญิง 5 คน จากจำนวนผู้ต้องกักตัวที่อยู่ในความควบคุมของห้องกักสวนพลูและบางเขน รวม 1,615 คน โดยมีชาวเมียนมาเป็นผู้ต้องกักมากที่สุด



         ภายหลังการคัดกรองผู้ต้องกัก ที่พบว่าติดเชื้อโควิด จะนำมารักษาตัวเพื่อดูอาการที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ 1 คน พยาบาล 4 คนและผู้ช่วยพยาบาล 2 คน ทำหน้าที่คอยดูแล ตลอด 24 ชั่วโมง

          ตามมาตรการด้านสาธารณสุขของกรมควบคุมโรค ปิดกั้นพื้นที่ห้ามเข้าออก พร้อมกล้องวงจรปิด และจะตรวจหาเชื้อด้วยวิธีสวอปเทสต์ ตั้งแต่ที่มาพัก จากนั้นจะตรวจซ้ำทุก 7 วัน และ14 วัน โดยหากพบผู้ต้องกักมีอาการป่วยหนักจะส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพล



          พลตำรวจเอกสุวัฒน์ ระบุด้วยว่า โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ คาดว่าจะรองรับผู้ต้องกักที่ติดเชื้อได้มากถึง 300 คน ขณะเดียวกัน ยังสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเตรียมพื้นที่รองรับเป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม หากพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

          ด้านพลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมา ห้องกักของ สตม.มีความแออัด และเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง ที่ทำให้การติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ต้องกัก มีการแพร่ระบาด



แอสตราเซเนกา ยืนยัน วัคซีนปลอดภัย



          บริษัทแอสตราเซเนกา ผู้วิจัยวัคซีนของอังกฤษ-สวีเดน ซึ่งวิจัยวัคซีนร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดของอังกฤษ เปิดเผยว่าผลการวิจัยวัคซีนในเฟสที่ 3 ในสหรัฐฯ ชิลีและเปรู ใช้อาสาสมัครกว่า 32,000 คน จากทุกกลุ่มอายุเข้ารับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ พบว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกา มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ร้อยละ 79 ทั้งช่วยป้องกันคนไข้ไม่ให้เจ็บป่วยรุนแรงจนถึงขั้นนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลร้อยละ 100

          แอสตราเซเนกา ระบุว่า คณะกรรมการอิสระไม่พบความเสี่ยงภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ หรือผลข้างเคียงอื่นๆจากอาสาสมัคร ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ผลการศึกษานี้อาจจะช่วยให้สาธารณชนเกิดความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งแอสตราเซเนกา จะส่งผลวิจัยนี้ไปให้องค์การอาหารและยาสหรัฐฯหรือ FDA พิจารณาเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะเผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย

          ด้านศาสตราจารย์ซาราห์ กิลเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและผู้ร่วมพัฒนาโครงการวัคซีนของมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด ระบุว่าการวิจัยครั้งก่อนที่ระบุว่า มีประสิทธิภาพในการป้องโรคโควิด-19 ร้อยละ 82.1 เป็นการวิจัยวัคซีนในอังกฤษ บราซิลและแอฟริกาใต้ ชื่นชมผลการวิจัยครั้งนี้ว่าย้ำให้เห็นว่าวัคซีนจากแอสตราเซเนกามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค

          ก่อนหน้านี้ วัคซีนจากแอสตราเซเนกาเป็นประเด็นที่เกิดปัญหาถกเถียงเรื่องความปลอดภัย หลังหลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปเช่น นอร์เวย์ ฝรั่งเศสและเดนมาร์ก ระงับการใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาไว้ชั่วคราว หลังมีรายงานว่าผู้ป่วยบางคนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกา จนกระทั่งองค์การยายุโรป(EMA) สรุปผลสอบสวนฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่าวัคซีนจากแอสตราเซเนกาปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค อีกทั้งไม่ใช่สาเหตุทำให้เกิดความเสี่ยงภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลายประเทศในกลุ่มอียูจึงเริ่มกลับมาใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาอีกครั้ง



ภาคธุรกิจญี่ปุ่นอ่วม เพราะโอลิมปิกไม่เปิดให้ต่างชาติเข้าชมในสนาม



          นางโตชิโกะ อิชิอิ นักธุรกิจโรงแรมของญี่ปุ่น ใช้จ่ายงบประมาณราว 180,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 24 ล้านบาท) ปรับปรุงตกแต่งโรงแรมของเธอ หวังว่าจะได้ใช้เป็นสถานที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ แต่บัดนี้ เธอจะไม่มีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแม้แต่คนเดียว หลังฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของญี่ปุ่นห้ามแฟนกีฬาจากต่างแดนเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก คาดว่าภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

          ด้านนายยูอิ โออิกาวะ ผู้จัดการธุรกิจรถลาก ซึ่งใช้คนลากพาหนะนำเที่ยวสำหรับบริการให้กับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวชมแหล่งโบราณสถานในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว แสดงความรู้สึกผิดหวังเช่นกันที่ธุรกิจของเขาได้รับผลกระทบ ไม่สามารถให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้  แม้ว่าบริษัทฯของเขาจะเตรียมมาตรการสุขอนามัยและการเว้นระยะห่างเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้บริการรถลากอย่างปลอดภัย

          ก่อนหน้านี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของญี่ปุ่นหวังว่าจะขายตั๋วชมราว 630,000 ใบให้กับแฟนกีฬาในต่างแดนเพื่อเดินทางไปชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในญี่ปุ่น โดยรัฐบาลหวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 600,000 คนเดินทางไปขมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคมถึง 8 สิงหาคมนี้ แต่แผนการทุกอย่างพังทลายทั้งหมด

          ด้านนายทากาฮิเดะ คิอูชิ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยโนมูระของญี่ปุ่น ระบุว่า ขณะนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของญี่ปุ่นยังไม่ได้พิจารณารายละเอียดว่าจะจำกัดจำนวนแฟนกีฬาในประเทศให้เข้าชมได้สนามละกี่คน แต่การที่ภาครัฐต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในสนามแข่งขันและห้ามแฟนกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในญี่ปุ่นจะทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียรายได้ราว 200,000 ล้านเยน(หรือ 56,894 ล้านบาท)



นายกฯสั่งสอบใช้อาวุธในการชุมนุม



          การชุมนุมทางการเมือง หลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า ได้มีการประเมินมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่า มีการสลายแยกหลายกลุ่มด้วยกัน บางกลุ่มก็ไม่มีความรุนแรง บางกลุ่มก็ใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการมาโดยตลอด รัฐบาลก็มองว่า จะทำอย่างไรจะทำให้เหตุการณ์สงบ มีความปลอดภัย และยังมองด้วยว่า ผู้ชุมนุมก็เป็นประชาชนคนไทยเหมือนกัน



          นอกจากนั้น ยังได้รับการยืนยันจากตำรวจว่า กรณีมีการใช้อาวุธกำลังติดตามสอบสวน หาจากกล้องทั้งหมดอยู่ ยืนยันไม่ใช่เจ้าหน้าที่แน่นอน เป็นการทำร้ายกันของกลุ่มมวลชนกลุ่มหนึ่ง พอดีผ่านไปก็ไปช่วยเขาปรากฏมีการใช้อาวุธออกไป ทำให้น่าเป็นห่วงอย่างนี้ มากกว่า 



          รวมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังที่สุด ใครได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานต้องไปดูแลรักษาพยาบาล



          ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กำลังจะทำอยู่ อย่าให้มันเป็นเรื่องทุกเรื่องเลย มันก็เป็นเรื่องของการทำงานของ ไม่ดีก็ปรับใหม่ในวันหน้า อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้ ทำให้บ้านเมืองมันสงบก่อน



คุกเพนกวิน 15 วัน ละเมิดศาล



          ศาลอาญา รัชดาภิเษก ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ที่ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา หรือ ผอ.ศาลอาญา กล่าวหา นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน จำเลยคดี ม.112 และความผิดฐานชุมนุมโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุมที่่ท้องสนามหลวงวันที่ 19-20 ก.ย.63 และอัยการขอให้รวมสำนวนคดี ปรากฏว่า นายพริษฐ์ ปฎิบัติตัวไม่เรียบร้อยโต้ตอบผู้พิพากษาในขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นการขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลและประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และ มาตรา 180 จึงมีคำสั่งให้ลงโทษ จำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 1 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 15 วัน นับแต่วันนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายพริษฐ์ กับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯตามเดิม

 



นิกเกอิ ร่วง 600 จุด หลังไฟไหม้บริษัทรถยนต์กระทบการผลิต



          จากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับค่าเงินลีราของตุรกีที่ทรุดตัวลงอย่างหนักหลังจากนายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี สั่งปลดนายนาซี แอกบาล ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีออกจากตำแหน่ง ประกอบกับตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลเยอรมนีเตรียมประกาศขยายเวลาใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการท่องเที่ยวปรับตัวลงมากที่สุด ส่งผลทำให้เปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง



          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันนี้ เนื่องจากหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ดิ่งลงหลังจากบริษัทเรเนซัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปสำหรับรถยนต์ เตือนว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานของเรเนซัสในญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 29,174.15 จุด ร่วงลง 617.90 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่าจะไม่ต่ออายุโครงการผ่อนคลายด้านเงินทุนสำหรับธนาคารพาณิชย์ปิดวันนี้ที่ 28,885.34 จุด ลดลง 105.60 จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,566.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,509.98 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้แข็งแกร่งกว่าที่คิด ช่วงต้นดัชนีฯปรับตัวลงก่อนรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ ทางเทคนิคถือว่าใช้ได้เนื่องจากดัชนีฯยังไม่หลุดแนว 1,560 จุด แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ตลาดบ้านเราได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดเล็กปรับขึ้นมาได้ดี



ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯยังอยู่ในระดับสูง หาก Bond yield ไม่ปรับตัวลงหุ้นยังมีโอกาสปรับฐานได้ อย่างไรก็ดี แนะติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24 มี.ค.นี้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันเดียวกัน

ข่าวทั้งหมด

X