สธ.เผยควบคุมคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง จ.สมุทรปราการได้แล้ว รุกตรวจแคมป์อื่นต่อ

21 มีนาคม 2564, 19:25น.


          กระทรวงสาธารณสุขเผยผลการตรวจสอบคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง จ.สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อ 17 คน และในการตรวจเชิงรุกพบเพิ่มอีก 6 คนถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้ เดินหน้าตรวจแคมป์อื่นเพิ่มเติม นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรณีผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนแคมป์คนงานก่อสร้าง จ.สมุทรปราการ  พบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นหญิงชาวกัมพูชาอายุ 29 ปี ไปตรวจหาเชื้อเพื่อต่ออายุใบทำงาน เป็นการติดเชื้อไม่มีอาการ จึงสอบสวนโรคและตรวจแคมป์คนงานสุขุมวิท 117 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบติดเชื้ออีก 16 คน (วันที่ 18 มีนาคม พบ 15 คน และวันที่ 19 มีนาคม พบ 1 คน) แบ่งเป็นคนไทย 4 คน กัมพูชา 10 คน และเมียนมา 2 คน ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ จากนั้นจึงค้นหาเชิงรุกในชุมชนและแคมป์คนงานที่เกี่ยวเนื่องกันวันที่ 19 มีนาคม จำนวน 593 คน ผลการตรวจพบติดเชื้อเพิ่มเติม 6 คน โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือไซต์คนงานค่อนข้างแออัด ใช้สิ่งของร่วมกัน ห้องสุขา-ห้องอาบน้ำรวม รวมทั้งมีพนักงานบางคนฝ่าฝืนมาตรการบริษัทไปสังสรรค์ในพื้นที่เสี่ยง เมื่อติดเชื้อไม่มีอาการเข้ามาทำให้มีการแพร่เชื้อในแคมป์



          ต่อจากนี้การสอบสวนควบคุมโรคจะตรวจสอบแคมป์คนงานแห่งอื่นๆ เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงและการแก้ไข ในภาพรวมถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งความระมัดระวังและความร่วมมือขององค์กรและบริษัทมีความสำคัญมาก หากหละหลวมจะทำให้มีความเสี่ยงการติดเชื้อ ซึ่งการระบาดในระลอกใหม่ข้อสังเกตคือมักไม่มีอาการ จึงต้องไม่ประมาท โดยใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ไม่อยู่ในพื้นที่แออัด



          ส่วนกรณีตลาดย่านบางแคพบการติดเชื้อในช่วงเริ่มต้น และดำเนินการสอบสวนควบคุมโรคได้เร็ว ทำให้ไม่มีการกระจายออกไปจำนวนมาก โดยจากการตรวจเชิงรุกในตลาด 4,315 คน พบติดเชื้อ 309 คน คิดเป็นร้อยละ 8 การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชนด้วยรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 6,293 คน พบติดเชื้อ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 0.6 และการตรวจเชิงรุกในชุมชนใกล้เคียง 4,886 คน พบติดเชื้อ 49 คน คิดเป็นร้อยละ 1 ถือว่าพบการติดเชื้อไม่มาก ได้นำเข้าสู่การรักษาพยาบาล ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงดำเนินการกักตัวและตรวจหาเชื้อต่อไป นอกจากนี้ยังได้มีการปิดตลาดเพื่อปรับปรุงสุขาภิบาล ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ค้าและแรงงานช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาจำนวน 3,000 กว่าคน และการออกบัตรรับรองผลการตรวจโควิด-19 ผู้ค้าและคนงานก่อนอนุญาตให้เข้าตลาด ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ยังคงค้นหาผู้ป่วย ปรับปรุงตลาด และเฝ้าระวังในสถานพยาบาลอีก 1-2 สัปดาห์



          นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่า ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสถานพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม 2564 และรวมกับการออกหน่วยฉีดวัคซีนในชุมชนที่ตลาดบางแค ถือว่าฉีดเกินกว่า 70,000 คนแล้ว ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง เกือบทุกจังหวัดฉีดได้ตามเป้าหมาย เหลือกรุงเทพมหานครซึ่งมีการปรับแผนออกหน่วยฉีดวัคซีนเชิงรุกเพื่อควบคุมสถานการณ์ คาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนวัคซีนซิโนแวคล็อตใหม่อีก 800,000 โดส ถือว่าเป็นไปตามแผน โดยองค์การเภสัชกรรมในฐานะผู้นำเข้าได้ตรวจสอบเอกสาร ทั้งความปลอดภัยและคุณภาพการผลิตของโรงงาน จากนั้นส่งวัคซีนไปทดสอบในห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะกระจายวัคซีนไปฉีดประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เป้าหมายที่วางแผนไว้ ทั้งนี้ วัคซีนทั้ง 2 ชนิดที่ประเทศไทยนำมาฉีดถือว่ามีความเหมาะสมกับสถานการณ์และดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้



          ในต่างประเทศมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวนมากแล้ว ยังพบการติดเชื้อรายใหม่ค่อนข้างสูง จนมีการประกาศล็อกดาวน์ใหม่ เนื่องจากการ์ดตกหลังฉีดวัคซีน ดังนั้น ประเทศไทยที่กำลังมีการทยอยฉีดวัคซีนจึงต้องย้ำว่ายังต้องใส่หน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง เนื่องจากการสร้างภูมิคุ้มกันต้องใช้ระยะเวลา ส่วนกรณีเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ การกักตัวยังมีความสำคัญ ดังนั้น ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีสายพันธุ์แอฟริกาใต้จำนวนมาก ยังคงให้กักตัว 14 วัน



...

ข่าวทั้งหมด

X