นายโนริฮิสะ ทามุระ รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (21 มี.ค.) ว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกคนต้องตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 24 ประเทศที่มีผู้ป่วยโควิดชนิดกลายพันธุ์จะต้องตรวจหาเชื้อ หลังจากที่เดินทางเข้าประเทศมาแล้ว 3 วัน ซึ่งนอกจากนี้แล้ว รัฐบาลจะมีการว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยของเอกชน ติดตามว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมีการปฏิบัติตามมาตรการกักตัว 14 วันอย่างเคร่งครัดหรือไม่
เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) ญี่ปุ่นได้ประกาศเพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้ที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป โดยระบุให้ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีประวัติเดินทางผ่านเอสโตเนีย สาธารณรัฐเช็ก ปากีสถาน ฮังการี โปแลนด์ ลักเซมเบิร์ก และเลบานอน จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์เพิ่ม
ในวันนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังประกาศยุติภาวะฉุกเฉินโควิด-19 ในภูมิภาคโตเกียว ซึ่งรัฐมนตรีสาธารณสุขเตือนว่า สิ่งสำคัญคือทุกคนยังต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ ตามที่นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สึกะ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (18 มี.ค.) ว่าจะยกเลิกภาวะฉุกเฉินในโตเกียว คานากาวะ ชิบะและไซตามะ ซึ่งมีการบังคับใช้มาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม
นายชิเกรุ โอมิ หัวหน้าคณะอนุกรรมการโควิด-19 ของรัฐบาลเตือนว่ายังมีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์ของโรคจะกลับมารุนแรงขึ้นอีกภายใน 1 ถึง 2 เดือนข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป จนกว่ากลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปจะได้รับการฉีดวัคซีนในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้
...