ช่วงพักฟื้น งดเยี่ยมผู้ว่าฯ สมุทรสาคร แพทย์ ฉีดวัคซีนให้แล้ว1เข็ม รอสร้างภูมิคุ้มกัน
นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ดูแลนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ย้ำว่า แม้จะสามารถกลับสมุทรสาครได้แล้ว แต่ระหว่างนี้ยังงดเยี่ยม งดลงพื้นที่ และยังต้องคุมเข้มกับมาตรการป้องกันโรคต่างๆ เช่นการเว้นระยะห่าง ส่วนนักกายภาพบำบัดที่จะไปช่วยฟื้นฟูอาการ ก็ยังเป็นทีมเดิมที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีเชื้อโควิด-19
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า กระบวนการรักษาผู้ว่าฯ สมุทรสาคร จะถือเป็นกรณีศึกษา เป็นองค์ความรู้ที่ดีสำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19รายอื่นๆ เริ่มตั้งแต่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ที่สามารถวินิจฉัยโรคได้เร็วและให้ยารักษาเร็ว ก่อนจะประสานส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาลศิริราชในช่วงที่อาการยังไม่หนักมาก ซึ่งขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางให้ทีมแพทย์ทั่วประเทศปฎิบัติอยู่แล้ว ทำให้เกิดการประสานงานที่รวดเร็ว และอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคโควิดในประเทศไทย มีอัตราที่ต่ำ ศ.นพ. ประสิทธิ์ ระบุว่า ตามทฤษฎีแล้ว ในกลุ่มผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 จะมีภูมิคุ้มกันโรค แต่ในกรณีของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ไม่พบภูมิคุ้มกัน จึงต้องขออนุญาตผู้ป่วย ฉีดวัคซีนของบริษัทซิโนแวค เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกัน และจะติดตามประเมินผลต่อว่า หลังจากรับวัคซีนแล้ว มีภูมิคุ้มกันขึ้นหรือไม่ รวมทั้งขอให้ทุกคนอย่าประมาท สวมหน้ากากอนามัย ดูแลสุขภาพของตัวเอง เพราะแม้แต่คนหนุ่มสาววัยทำงาน หรือคนอายุ 40 กว่าปี ติดโควิดเสียชีวิตมาแล้วก็มี
ขณะที่ รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ระบุว่า โรงพยาบาลศิริราช ได้รับดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จากการระบาดรอบแรกมาแล้ว และไม่มีผู้ป่วยที่มารักษาเสียชีวิตเลย จึงถือว่ามีความพร้อม มีประสบการณ์ และมีเครื่องมือพร้อม ในการรอบใหม่ โรงพยาบาลศิริราช ช่วยรับส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19ที่อาการหนักจากโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในการระบาดรอบใหม่ 75 คน อาการหนักกว่า 10 คน ซึ่งแยกรักษาในห้องความดันลบ ดังนั้น โรงพยาบาลศิริราช จึงมีศักยภาพและความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เช่นการระบาดที่ตลาดเขตบางแค
ศบค.มีมติงดเล่นน้ำสงกรานต์ –ลดการกักตัวเหลือ 10 วัน เริ่ม 1 เม.ย.
ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ มีมติหลายเรื่อง
1.ขยายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด-19 จากเดิมที่จะหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค.64 ให้ขยายออกไปอีก 2 เดือน จนถึงวันที่ 31 พ.ค.64 เป็นการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 11
2.ส่วนการจัดเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ให้จัดตามประเพณีทางศาสนาและเดินทางท่องเที่ยวและเดินทางข้ามจังหวัดได้ งดกิจกรรมรวมกลุ่มสาดน้ำ งดจัดคอนเสิร์ต งดกิจกรรมสัมผัสใกล้ชิด งดประแป้ง ปาร์ตี้โฟม ส่วนกิจกรรมอื่นๆ นอกจากนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร
3..ที่ประชุม ศบค.ยังมีมติปรับระดับพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากพื้นที่ควบคุมสูงสุด-สีแดง เป็นพื้นที่ควบคุม-สีส้ม โดยมีรายละเอียดดังนี้
พื้นที่ควบคุม-สีส้ม มี 9 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ราชบุรี สมุทรสงคราม ตาก นครปฐม และสมุทรปราการ ทำให้ร้านอาหาร สถานบันเทิง ผับบาร์ เปิดให้บริการได้ถึง 23.00 น. จำหน่ายและดื่มสุราในร้านได้ มีการแสดงดนตรีได้ แต่งดเต้นรำ , ศูนย์การค้า สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส เปิดให้บริการตามปกติ แต่จำกัดจำนวนคน , สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา เปิดเรียนตามปกติกับผสมผสานแบบออนไลน์
พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด-สีเหลือง 14 จังหวัด กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ระนอง ชลบุรี ระยอง ชุมพร สงขลา ยะลา นราธิวาส
พื้นที่เฝ้าระวัง-สีเขียว 54 จังหวัด (จังหวัดที่เหลือ)
4.ที่ประชุม ศบค. ยังเห็นชอบให้ลดระยะเวลากักตัวของชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากเดิม 14 วัน เหลือ 10 วัน ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขที่ผ่านการพิจารณาของ ศบค.ชุดเล็กแล้ว โดยจะเริ่มใช้มาตรการนี้ในวันที่ 1 เม.ย.64 เป็นต้นไป
หลังเที่ยงคืนนี้ ฝรั่งเศส ล็อกดาวน์กรุงปารีส 1 เดือน
นายกรัฐมนตรีฌอง คาสเท็กซ์ ของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ฝรั่งเศสจะใช้มาตรการล็อกดาวน์กรุงปารีสและอีก 15 จังหวัดในแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์, แคว้นโอต์ เดอ ฟรองซ์, แคว้นแซน-มารีตีมและแคว้นอัลป์-มารีตีมส์ รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านหรือทำงานจากบ้านเป็นเวลาหนึ่งเดือน เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันศุกร์นี้ 19 มี.ค.64 จนถึงวันที่ 19 เม.ย. 64 หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฝรั่งเศสหวั่นเกรงว่าโรคโควิด-19 อาจจะกลับมาแพร่ระบาดระลอกที่ 3 หลังพบผู้ป่วยใหม่กว่า 35,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมง แต่มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะไม่เข้มงวดเท่ากับการล็อกดาวน์ครั้งก่อน คือ ธุรกิจทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคจะถูกปิด แต่โรงเรียนยังคงเปิดทำการตามปกติ นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถจะไปออกกำลังกายนอกบ้านในระยะไม่ห่างจากบ้าน 10 กิโลเมตร แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆของประเทศ ยกเว้นมีเหตุผลสมควร ประชาชนที่ต้องการจะเดินทางออกนอกพื้นที่จะต้องกรอกข้อมูลในเอกสารแบบคำขออนุญาต ชี้แจงเหตุผลในการเดินทาง
ขณะเดียวกัน มาตรการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานในยามค่ำคืนหรือเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ซึ่งเริ่มใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.64 ยังคงมีผลต่อไป เพียงแต่รัฐบาลปรับเลื่อนเวลาเริ่มต้นมาตรการเคอร์ฟิวให้ช้ากว่าเดิมหนึ่งชั่วโมงคือ เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น.จนถึงเวลา 06.00 น.จนกว่ารัฐบาลฝรั่งเศส จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ในปัจจุบัน ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยสะสม 4,181,607 คน เสียชีวิต 91,679 ราย