กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงว่า นางพยาบาลวัย 47 ปีที่เสียชีวิตหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค ประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 มี.ค.จากการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ใช่อาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน นายแพทย์รอมเมล โลโบ ประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบผลไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน ยืนยันว่าพยาบาลคนดังกล่าวเสียชีวิตเพราะป่วยเป็นโรคโควิด-19 หลังพบว่าการตรวจหาเชื้อครั้งแรก มีผลเป็นบวกเมื่อวันที่ 22 ก.พ. จากนั้น การตรวจหาเชื้อครั้งที่สองในวันเดียวกัน มีผลเป็นลบ คาดว่า เป็นเชื้อที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายเพราะจากประวัติพบว่า พยาบาลคนนี้ เคยติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ.2563)
นายแพทย์รอมเมล ยังระบุว่า หลังผ่านการตรวจว่าเชื้อเป็นลบในวันที่ 23 ก.พ. พยาบาลรายนี้ เข้ารับการฉีดวัคซีนของซิโนแวค โดสแรกในวันที่ 4 มี.ค. แต่กลับตรวจเจอเชื้อโควิด-19 เป็นบวกอีกในวันที่ 8 มี.ค. และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 10 มี.ค. ก่อนเสียชีวิตในอีก 3 วันต่อมา
นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ใช้ยาลดความดันโลหิตสูง ยารักษาอาการหืด และควบคุมอาหารเพื่อป้องกันอาการโรคเบาหวานกำเริบด้วย ทำให้วัคซีนไม่สามารถกระตุ้นการติดเชื้อโควิด-19 ได้ พร้อมย้ำว่า วัคซีนไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ เพราะเป็นไวรัสที่ตายไปแล้ว แต่มันจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองต่อเชื้อ
ด้านนพ.เบฟเวอลี โฮ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ กล่าวว่า โครงการฉีดวัคซีนจะยังเดินหน้าต่อไป เพราะพยาบาลรายนี้ เสียชีวิตเพราะป่วยเป็นโรคโควิด-19 จึงไม่มีเหตุผลที่จะชะลอการฉีดวัคซีน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดในประเทศ หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่กลับมาสูงเกือบ 5,000 คนต่อวัน ส่งผลให้ยอดป่วยสะสมอยู่ที่ 640,984 คน และเสียชีวิตแล้ว 12,887 ราย