!-- AdAsia Headcode -->

สุดฮิต! น้ำเซเลอรี่.. น้ำผักสำหรับสายสุขภาพ ดื่มได้แต่ต้องพอดี

17 มิถุนายน 2562, 12:01น.


        เมื่อพูดถึงน้ำผักสำหรับสายสุขภาพเชื่อว่าหลายๆ คนต้องกำลังนึกถึงน้ำเซเลอรี่ หรือน้ำขึ้นฉ่ายฝรั่งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ณ ขณะนี้แน่นอน เพราะไม่ว่าใครทื่อยากหุ่นเพรียว เรียวทุกสัดส่วน เป็นต้องลุกขึ้นมาคั้นเจ้าขึ้นฉ่ายฝรั่งดื่มกัน จนแทบจะหาซื้อตามท้องตลาดไม่ได้เลยเชียว!! แต่เอ๊ะ.. น้ำเซเลอรี่มีมานานหรือเพิ่งจะนิยมกันนะ แล้วการที่เราเอามาคั่นสดๆ ไม่ผสมผักอื่นจะทำได้ และดีจริงหรือไม่? วันนี้เราจะพาไปค้นหาคำตอบพร้อมๆ กัน

        เรื่องนี้คุณแววตา เอกชาวนา นักกำหนดอาหารวิชาชีพ และที่ปรึกษา “โครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม” ของ สสส. ได้หาคำตอบมาให้เราไว้แล้วว่า จริงๆ การดื่มน้ำผักเซเลอรี่มีมานาน 10-20 ปีแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการปั่นผสมกับผักอื่นๆ เพราะด้วยรสชาติที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไร แต่ด้วยความที่คนไทยชอบความท้าทายจึงทำให้เกิดชาเลนจ์ดื่มน้ำเซเลอรี่แบบสดๆ เพียวๆ ติดต่อกัน 7 วัน และคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตนเอง บวกกับดารา เซเลบริตี้ชื่อดังของไทยหันมาดื่มกันเยอะ จึงกลายเป็นสูตรฮิตคั้นน้ำแยกกากแล้วดื่มแบบสดๆ เพียวๆ ไม่ผสมผักอื่นอยู่ ณ ขณะนี้

        การดื่มน้ำเซเลอรี่มีประโยชน์อย่างไร?


        ส่วนใหญ่เรามักจะดื่มน้ำเซเลอรี่ตอนท้องว่าง เพื่อเป็นการดีท็อกซ์ของเสียภายในร่างกาย ยิ่งดื่มตอนท้องว่าง เช้าๆ ยิ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่ายของเราได้ดี เพราะมีกากใยสูง และด้วยคุณประโยชน์ที่ได้ใจสายสุขภาพมากที่สุดก็คือมีน้ำตาลน้อย และให้พลังงานน้อย กินเท่าไรก็ไม่อ้วน มีปริมาณโพแทสเซียมสูงที่มีฤทธิ์อ่อนในการขับปัสสาวะออกจากร่างกาย ช่วยลดอาการบวมน้ำและช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดี ฯลฯ



       แล้วใครว่าข้อเสียไม่มีในน้ำเซเลอรี่กันเล่า!

        การดื่มน้ำเซเลอรี่เป็นเรื่องที่ดีแต่ก็ควรดื่มอย่างพอประมาณ ไม่ควรดื่มเยอะเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโพแทสเซียมจากเซเลอรี่มาก โรคไตจะถามหาเอาได้

       ควรกินควบคู่กับผักอื่นๆ หรืออาหารหมู่อื่น อย่าง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เพื่อให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานได้อย่างเต็มที่


        ส่วนกลุ่มต้องห้ามไม่แนะนำให้ดื่มเลยก็คือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี เพราะกระเพาะของเด็กยังเล็กไม่แข็งแรง และผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นโรคความดันต่ำ เพราะจะยิ่งทำให้ความดันต่ำลงไปกว่าเดิมจนอาจเกิดอันตรายได้

        สุดท้ายสำคัญที่สุดคือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องบำบัดด้วยคีโม คือด้วยความที่ขึ้นฉ่ายฝรั่งเป็นผักที่ไม่มีเปลือกห่อหุ้ม แตะต้องด้วยมือง่าย จึงจัดเป็นผักที่เสี่ยงปนเปื้อนแบคทีเรีย



        อย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะนำผักหรือผลไม้ใดๆ มารับประทานก็ควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะล้างจากน้ำที่ไหลผ่าน หรือล้างในภาชนะที่ใส่น้ำจนท่วมผัก ซึ่งก็ควรคลี่ใบผักถูไปมานานกว่า 2 นาทีด้วย เพื่อช่วยลดสารเคมีที่อาจตกค้างในผัก

ข้อมูล : กรมอนามัย

รูปภาพ : thaiticketmajor, kapook, thaihealth, กรมอนามัย



 





 

X