จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์นักท่องเที่ยวได้ตบหน้าเจ้าหน้าที่หญิงของสนามบินระหว่างทำการตรวจค้น เพื่อความปลอดภัย บริเวณด่านตรวจรักษาความปลอดภัยผู้โดยสาร ภายในสนามบินสุวรรณภูมินั้น
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยหลังจากตรวจสอบแล้ว เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกของวันที่ 26 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา บริเวณจุดตรวจค้นสัมภาระ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ให้นักท่องเที่ยวหญิงผู้ก่อเหตุยกแขนขึ้น เพื่อทำบอดี้สแกน ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน พอเจ้าหน้าที่สัมผัสตามร่างกายเพื่อตรวจสอบ อยู่ๆนักท่องเที่ยวหญิงคนดังกล่าวก็สะบัดแขน แล้วใช้มือตบไปยังใบหน้าของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการอบรมด้วยหน้าที่การให้บริการ จึงไม่มีการโต้ตอบ แต่ถอยออกเพื่อตั้งหลัก แล้วประสานไปยังหัวหน้าชุดเพื่อตรวจสอบ
ต่อมาสามีของผู้หญิงคนดังกล่าวที่เดินทางมาด้วยกัน ได้เข้ามาขอโทษเจ้าหน้าที่ โดยแจ้งว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาท พร้อมแสดงยา และใบรักษาโรค อธิบายว่าภรรยาไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่โดนตบใบหน้าไม่ติดใจเอาความ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น จะมีโทษเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย 1,000 บาท แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช จึงไม่ได้ดำเนินคดีใด ส่วนทางด้านสามีได้เสนอให้สินน้ำใจ 1,000 บาทแทนเพื่อปลอบขวัญ ก่อนเดินกลับประเทศ
ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมพนักงานที่มีความอดทนอดกลั้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะถูกกระทำแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เนื่องจากเห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เกรงว่าอาจส่งผลกระทบภาพรวมของการให้บริการภายในสนามบินได้
ชมคลิป