เหตุวินรถจักรยานยนต์รับจ้างทะเลาะกับแกร็บ ปากซอยสาทร1 ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่า เกิดจากการขัดรถปาดหน้ากัน ไม่ใช่เป็นการแย่งผู้โดยสารอย่างที่หลายคนเข้าใจ และล่าสุดทั้ง 2 ฝ่ายได้ขอโทษกัน แต่ในทางคดี ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เช่นเดียวกับกลุ่มเพื่อนทั้งสองฝ่ายที่ร่วมชกต่อย ตำรวจจะเรียกมาสอบปากคำเหมือนกัน เหตุการณ์ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะขอโทษกัน ได้มีเพื่อนของทั้งสองกลุ่มนับร้อยคนมาที่สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่ล่าสุดได้แยกย้ายกันแล้ว
จากการสอบถามตำรวจจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่ประจำป้อมใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าขณะปฏิบัติหน้าที่ได้เข้าไปห้ามปรามคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายที่ทะเลาะวิวาทจนสามารถระงับเหตุแยกย้ายแต่ทั้ง2ฝ่ายยังคงติดใจ ก่อนที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ทุ่งมหาเมฆ เนื่องจาก การขับรถปาดหน้ากันตั้งแต่หน้าโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ถนนสาทร ขาเข้า ก่อนที่คนขับรถแกร็บจะขับติดตามมาจนถึงบริเวณปากซอยสาทร1จากนั้นได้พูดคุยกันและเกิดการทะเลาะวิวาท
ส่วนที่มีประเด็นว่าวินรถจักรยานยนต์ที่เข้ามาทะเลาะวิวาท มีตำรวจคอยดูแลอำนวยความสะดวกและไม่เคยถูกดำเนินคดี เนื่องจากเป็นวินเถื่อนนั้น ตร.ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนมักอ้างว่ามีตำรวจคอยดูแลคุ้มครอง และที่ผ่านมาตำรวจมีผลงานการจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า ประชาชนทุกคนมีตำรวจเป็นที่พึ่งทั้งหมด ตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ
จากการลงพื้นที่สอบถามนายเกรียงไกร ตราวณิชกุล รองหัวหน้าวินรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลุมพินี 2 ซึ่งอยู่ใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ไม่ใช่คนในวินของตัวเอง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ9.00-10.00น. ประมาณ5นาที ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจากการขับรถปาดหน้ากัน