ผู้นำแคนาดาเตือนสหรัฐฯ หลังสั่งห้ามส่งออกหน้ากากอนามัย

          นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดแห่งแคนาดา ตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การลักลอบขนส่งหน้ากากของบริษัท 3M ทางทะเลไปยังแคนาดา จะทำให้ชาวอเมริกันเดือดร้อน นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า รัฐบาลแคนาดากำลังเจรจาในเรื่องนี้กับรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมย้ำด้วยว่าในแต่ละวัน ทั้งสหรัฐฯ และแคนาดาต่างนำเข้าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นจากกันและกัน ไม่นับรวมความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่นๆ

           คำกล่าวของผู้นำแคนาดา มีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมจะสั่งห้ามบริษัทเอกชนที่เล่นไม่ซื่อในการลักลอบส่งออกเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่กำลังขาดแคลนในสหรัฐฯ โดยมอบหมายให้สำนักงานสังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและสำนักงานบรรเทาทุกข์แห่งชาติจะทำงานร่วมกันในการระงับการส่งออกหน้ากากอนามัย N95 และเวชภัณฑ์ที่ขาดแคลนอื่นๆ อันเนื่องจากความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก

           ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบกักตุนหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ขาดแคลนอย่างถึงที่สุด ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และแคนาดาเห็นพ้องร่วมกันในการปิดพรมแดนระหว่างกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยผ่อนปรนให้เฉพาะการขนส่งทางการค้าและการขนส่งเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ขณะที่บริษัท 3M ยืนกรานปฏิเสธคำร้องขอจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้ยุติการส่งออกหน้ากากอนามัยไปแคนาดา โดยให้เหตุผลว่าการระงับการส่งออกดังกล่าวจะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ เดือดร้อนหนัก พร้อมแสดงความวิตกเกี่ยวกับเรื่องมนุษยธรรม รวมทั้งผลกระทบอื่นๆ ที่อาจตามมาในภายหลัง