กทม.เร่งตรวจสอบถนนริมเขื่อนทรุดตัวจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่เขตหนองจอก

          หลายพื้นที่ประสบภัยแล้งน้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำ น้อยกว่าเกณฑ์ การติดตามสถานการณ์กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ในพื้นที่เขตหนองจอก มีถนนริมเขื่อนทรุดตัวหลายจุด จุดที่หนักที่สุดเป็นถนนริมคลองแสนแสบ ซอยสังฆสันติสุข 61 เกิดดินทรุดตัว ระยะทางประมาณ 90 เมตร เนื่องจากน้ำในคลองแห้งขอด ด้านล่างเป็นโพรง ทำให้กำแพงกั้นริมคลองหน้าบ้านประชาชนล้มเอนลงไปในคลอง และดินทรุดตัวไหลลงไปในคลองลึกประมาณ 3 เมตร อาจทำให้บ้านไหลลงไปในคลองได้  

          จุดต่อมาคือคลองนครเนื่องเขต หลังมูลนิธิอนุสรณ์ตระกูลกอดีรี ซอยสังฆสันติสุข 63 ดินทรุดตัวและถนนริมคลองแตกเป็นเสี่ยงๆเอนลงในคลองระยะทางยาว  60 เมตร

          ส่วนอีกจุดบริเวณด้านหลังโรงเรียนนีลราษฎร์อุปถัมภ์ ซอยสังฆสันติสุข 81 ถนนริมคลองทรุดตัวเช่นกัน และทางเดินที่ติดกับอาคารเรียนเกิดทรุดตัวลงด้วย แต่ตัวอาคารไม่ได้รับผลกระทบ นักเรียนเรียนหนังสือได้ ทั้ง 3 จุดนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดป้ายเตือนให้ประชาชนรับทราบว่าเขตอันตรายห้ามเข้า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ทั้ง 3 จุดนี้ สั่งกำชับให้สำนักการระบายน้ำกับสำนักการโยธาร่วมกันช่วยแก้ไขในวันพรุ่งนี้ ให้วิศวกรไปสำรวจดินในแต่ละจุด เพื่อทำการตอกเสาเข็มใหม่ทั้ง 3 จุด จากเดิมเสาเข็มลึก 17 เมตร อาจจะตอกเสาเข็มให้ลึกลงกว่าเดิมเป็น 18-20 เมตร เพื่อไม่ให้พังซ้ำซาก เพราะสาเหตุที่เขื่อนล้มก็มาจากที่น้ำในเขื่อนแห้ง ไม่มีน้ำต้านแรงทำให้ดินทรุดตัว โดยจะดำเนินการแก้ไขให้เสร็จในเดือนมิ.ย.2563

          จุดสุดท้ายถนนทรุดตัวที่ซอยสุวินทวงศ์ 42 เกิดจากในคลองไม่มีน้ำ ทำให้คันทางทรุดตัวไหลลงคลองลึกประมาณ 1 เมตร จุดนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมคันทางในเบื้องต้นแล้ว ด้วยการตอกเสาเข็มไม้ กันดินไม่ให้ไหลลงคลองและถมดินเพิ่มเพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้ จากนั้นจะแก้ไขด้วยการเสริมความแข็งแรงของเส้นทางนี้เพื่อป้องกันการทรุดตัว ซึ่งทั้ง 4 จุดดังกล่าว ได้รับผลกระทบในปีนี้ เมื่อปีที่แล้วแม้ว่าจะมีปัญหาภัยแล้ง แต่ภายในคลองตามจุดต่างๆก็ยังมีน้ำเพียงพอป้องกันไม่ให้ดินริมตลิ่งทรุดตัว