สทนช.พัฒนาแหล่งน้ำภาคตะวันออกรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

18 พฤศจิกายน 2562, 12:49น.


          ในการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษา เพื่อจัดทำแผนหลักการพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้แหล่งน้ำกับความต้องการใช้น้ำไม่สมดุลกัน โดยต้องหาน้ำต้นทุนให้เพียงพอ ทั้งน้ำจากผิวดิน น้ำบาดาล และแหล่งน้ำอื่นๆ จากการวิเคราะห์ความต้องการใช้น้ำทั้งหมดในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่รองรับระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา มีความต้องการมากกว่า 2,400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่ปีนี้ยอมรับว่าน้ำมีน้อยกว่าปกติร้อยละ 10 จึงได้ประชุมจัดทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อตอบสนองการรองรับในอนาคต




          โดยจังหวัดชลบุรีมีความต้องการใช้น้ำในการอุตสาหกรรม การเกษตร การอุปโภคบริโภค รวม 470 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่อนาคตจะมีความต้องการน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ซึ่งมีแหล่งเก็บน้ำใหญ่ ๆ คืออ่างคลองรัชชโลทร อ่างเก็บน้ำบางพระ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ แต่ตอนนี้มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ต้องอาศัยน้ำจากแหล่งข้างเคียง ทั้งน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา จากปราจีนบุรี จากลุ่มน้ำนครนายก รวมถึงดึงน้ำจากจังหวัดระยองมาด้วย เห็นได้ว่าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งน้ำข้างเคียงก็จะมีน้ำไม่เพียงพอ 


          จังหวัดระยอง ต้องการใช้น้ำ เกือบ 500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี อนาคตจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอีก 250 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ขณะเดียวกันก็ต้องจ่ายน้ำให้จังหวัดชลบุรี ปีละเกือบล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่ได้รับน้ำจากจังหวัดข้างเคียงก็อาจจะไม่พอได้ จึงมีแผนดึงน้ำจากจังหวัดจันทบุรีมาช่วย ซึ่งก็ต้องหามาตรการต้องพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดจันทบุรีมากขึ้นด้วย 


          ส่วนการหาน้ำต้นทุน ต้องหาทั้งจากภายในจังหวัดด้วยการสร้างลำน้ำ หรือบางแห่งก็ต้องสูบน้ำย้อนกลับไปเติมแหล่งน้ำเดิมและหาต้นทุนน้ำจากจังหวัดอื่นเข้ามาช่วย นอกจากนี้ ยังจะต้องหารือและจัดทำแผนหลักในการเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดโดยการอาศัยเทคโนโลยีใหม่ และการบำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพดีขึ้น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ด้วย


...
ข่าวทั้งหมด

X