ศาลฎีกา พิพากษายืนประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมา คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า

29 สิงหาคม 2562, 14:52น.


ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตนายซอลิน หรือโซเรน จำเลยที่ 1 และนายเวพิว หรือวิน จำเลยที่ 2  สองจำเลยชาวเมียนมาที่เป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮานนาห์ วิทเธอร์ริจ อายุ 23 ปี สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่หาดทรายรี เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2557 ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำให้การของพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุยในฐานะโจทก์มีน้ำหนัก ประกอบกับได้พิเคราะห์ตามพยานหลักฐานต่างๆ และผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบว่าร่องรอยการถูกข่มขืนของน.ส.ฮานนาห์ กับจำเลย ตรงกัน และคำให้การรับสารภาพของจำเลยทั้งสอง ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง ส่วนประเด็นที่จำเลยต่อสู้ว่าให้การรับสารภาพ เพราะถูกทรมานร่างกายจากเจ้าหน้าที่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วไม่เชื่อว่ามีการทรมานจำเลยทั้งสองจริง ทั้งประเด็นต่อสู้ฎีกาของจำเลยก็ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง หลังฟังคำพิพากษา จำเลยทั้งสองเดินออกมาจากห้องพิจารณาคดี ด้วยสีหน้าที่กังวล





(แฟ้มภาพ:เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปทำแผน)



ด้านนายนคร ชมภูชาติ ทนายความจำเลย ระบุว่า คดีถึงที่สุดแล้วคงไม่สามารถติดใจสิ่งใดได้ ถ้าจำเลยทำผิดจริงก็ต้องรับผิด แต่ถ้าไม่ได้ทำถือเป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดให้จำเลยอย่างมาก แต่ก็มองว่าถึงทำผิดจริงก็ไม่ควรลงโทษประหารชีวิต เนื่องจากคำพิเคราะห์บางอย่างของศาลฎีกาไม่ปรากฎหลักฐานชัดว่าจำเลยทำผิดจริง เช่น ที่ศาลฎีการะบุว่าในช่วงเกิดเหตุไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์ จากนี้จะปรึกษากับจำเลยเพื่อเตรียมยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 60 วันตามกฎหมาย หวังว่าโทษจะลดลงจากเดิมบ้าง ส่วนตัวจำเลย ยังถูกคุมขังที่เรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี เพื่อรอขั้นตอนการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ จำเลยยังยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ



ทนายจำเลย ระบุถึงปัญหาต่างๆในการได้รับความสะดวกและความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีของจำเลยที่เป็นคนต่างชาติแต่ต้องมาเข้ากระบวนการยุติธรรมที่ไทย โดยยกตัวอย่างถึงความไม่เชื่อมั่นล่ามที่มาแปลภาษาในวันนี้ ประกอบกับข้อกฎหมายที่ซับซ้อน และกระบวนการต่างๆในการต่อสู้คดีที่เป็นเรื่องยากของจำเลยที่เป็นคนต่างชาติ สำหรับการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาวันนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากเอกสารคำพิพากษา 69 หน้า ระหว่างการอ่านคำพิพากษาพบว่าล่ามที่แปลภาษาให้จำเลยฟังถูกท้วงติงจากล่ามอีกคนที่คอยฟังการแปลว่ามีการสื่อสารผิดพลาดด้วย



 



ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร



 

ข่าวทั้งหมด

X