ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. วันที่ 24 มกราคม 2562

+++ศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. นำผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาตรวจสอบที่เกิดเหตุทาวเวอร์เครนขนาดใหญ่ที่พังถล่มทับคนงาน ขณะกำลังก่อสร้างคอนโดมิเนียม ย่านพระราม 3 จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการพังถล่มลงมาของทาวเวอร์เครน ชนิดที่เรียกว่า เครนคอห่าน หรือ Gooseneck ซึ่งเป็นเครนที่ถือว่ามีความแข็งแรงมากกว่าเครนปกติ เป็นเครนที่ใช้การต่อในแนวดิ่ง ในการต่อแบบนี้ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ เสียหายในช่วงที่ติดตั้งท่อนสุดท้ายที่จะเพิ่มความสูงให้กับตัวเครน  จากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบว่ามีวิศวกรในการควบคุม อย่างไรก็ตาม จากสถิติอุบัติเหตุที่เกิดกับเครนทั้งหมด มักเกิดขึ้นในช่วงของขั้นตอนการติดตั้งถึงร้อยละ 95 แต่กลับไม่มีกฎหมายควบคุมบังคับให้มีวิศวกรคอยควบคุมขณะกำลังติดตั้ง ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ขณะนี้ วสท.กำลังเร่งรณรงค์และเปิดอบรมวิศวกร ให้มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งเครนให้มากขึ้น

+++นายหฤษฎ์ ศรีนุกูล อนุกรรมการวิศวกรรมยกหิ้ว และปั้นจั่นไทย วสท. ระบุว่า จากการตรวจสภาพที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่าเครนพังถล่มขณะกำลังจะเสร็จงาน โดยอยู่ในช่วงของการเพิ่มความสูงด้วยการต่อเครนท่อนสุดท้ายและปิดฝาบนตัวเครน ซึ่งเข้าใจว่าคนงานอาจปิดฝาด้วยความแรงเกินกว่าที่ตัวเครนจะรับน้ำหนักได้ ทำให้เครนเกิดหงายหลังแล้วพังถล่มลงมา

+++แนวทางการแก้ปัญหาลดฝุ่นละออง พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการ 4 กองบังคับ การตำรวจสันติบาล 3 ทำเนียบรัฐบาล กำชับให้รถยนต์ที่เข้ามาจอดในทำเนียบฯ ต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ออกตรวจรถยนต์ที่จอดทุกคัน โดยยืนบนรถไฟฟ้า 2 ล้อ (เซกเวย์) ติดป้ายกระดาษข้อความ “จอดรถกรุณาดับเครื่องยนต์” วิ่งตรวจทั่วบริเวณทำเนียบฯ พ.ต.อ.กัมปนาท กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะทำอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่ช่วงที่มีมลพิษทางอากาศ หากพบรถติดเครื่องทิ้งไว้จะแจ้งและตักเตือนทันที และจะนำป้ายข้อความ “ขอความร่วมมือดับเครื่องยนต์” ติดไว้ตามแผงเหล็กในจุดบริเวณที่จอดรถโดยเฉพาะบริเวณรอบตึกบัญชาการ 1-2

+++กรมควบคุมมลพิษ  รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM_2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 37 - 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) เกินมาตรฐานที่บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ, ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม, ต.คลองหนึ่งอ.คลองหลวง ปทุมธานี, ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง สมุทรปราการ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร, ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อ.เมือง

+++หลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เป็นการทั่วไปแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประชุมทันที เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง และประกาศวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยให้ความมั่นใจว่าจะประกาศผลได้ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม แต่ถ้าทำการเลือกตั้งให้เรียบร้อย ก็ประกาศผลได้ก่อน ไม่จำเป็นต้องรอถึง 60 วัน และในวันนี้ กกต.จะประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา

+++สำนักนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์เรื่องการเลือกตั้งทั่วไป ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.โดยมีใจความสรุปว่า น่าจะเป็นการยุติความลังเลสงสัยได้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ และเมื่อใด รัฐบาลประสานงานกับ กกต.ในเรื่องที่จำเป็นต่อการแจ้งข้อมูลให้ทราบถึงกำหนดการและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อไม่ให้กิจกรรมบางเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และสามารถปรับเปลี่ยนได้ ไปทับซ้อนกับกำหนดการพระราชพิธีดังกล่าว รัฐบาล เชื่อว่า วันเลือกตั้งที่ กกต.จะกำหนดขึ้น จะไม่กระชั้นชิดเกินควร จนกระทบต่อระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง และผู้สมัคร และไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ใด รัฐบาลขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อย

+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ว่า ตามกฎหมายแล้ว รัฐบาลนี้จะไม่อยู่ในสถานะรัฐบาลรักษาการ แต่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญในอดีต ที่กำหนดให้มีรัฐบาลรักษาการก่อนมีรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงมีอำนาจเต็มต่อไป ส่วนจะทำเรื่องใดมากหรือน้อย ก็อยู่ที่ความเหมาะสม

+++ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 22 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบุว่า รัฐบาลจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติ โดยจะพิจารณาเรื่องต่างๆ ตามความเหมาะสม เพราะปัญหาของบ้านเมืองจะแก้ไขด้วยการหยุดทำงานหรือใส่เกียร์ว่างไม่ได้ และกฎหมายก็ไม่มีข้อห้ามใดๆ ในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้น รัฐบาลสามารถดำเนินโครงการต่างๆ หรืออนุมัติงบประมาณ แต่งตั้งโยกย้ายได้ตามปกติ ส่วนความเหมาะสมนั้นจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป

+++นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและแนวทางของรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ออกอากาศทุกเย็นวันศุกร์ โดยปรับเปลี่ยนตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 มกราคมนี้เป็นต้นไป เพื่อความเหมาะสม ขอย้ำว่ารัฐบาลยังปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการนำเสนอการพูดถึงนโยบาย หรือบางโครงการที่อาจกระทบหรือชี้นำให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

+++นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การประกาศ พ.ร.ฎ.จะช่วยทำให้ความเชื่อมั่นในภาคเศรษฐกิจเป็นบวกมากขึ้น มีผลทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีขึ้นตามไปด้วย และหากจัดเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย จะเป็นผลดีอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของภาคเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ม.ค.สศค. จะประกาศประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2562 จากข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าปีนี้ตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4 ขณะที่ ภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจเมื่อปี 2561 มองว่าจะเติบโตได้สูงกว่าร้อยละ 4 ยอมรับว่า เป็นการเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.5 ส่วนหนึ่งเพราะการส่งออกที่เติบโตได้ต่ำกว่าเป้าหมาย

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 39 เซนต์ ปิดที่ 52.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 61.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวปิดในแดนบวก หลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากไอบีเอ็มและบริษัทอื่นๆ ช่วยชดเชยความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการระหว่างสหรัฐฯกับจีน และวิกฤตชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เข้าสู่วันที่ 33 แล้ว ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 171.14 จุด ปิดที่ 24,575.62 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.80 จุด ปิดที่ 2,638.70 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.41 จุด ปิดที่ 7,025.77 จุด

+++ราคาทองคำ ปรับขึ้นเล็กน้อย จากดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 60 เซ็นต์ ปิดที่ 1,284.00 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย