หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตเพื่อให้สิทธิการสร้างครอบครัวแก่กลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศ ยกระดับการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนมากขึ้น รัฐบาลจึงผลักดันกฎหมายสร้างครอบครัวผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยสาระสำคัญ คือนิยามคู่ชีวิต หมายถึงบุคคล 2 คนที่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ หรือชายหญิง สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ภายใต้เงื่อนไขมีอายุ 20 ปี ขึ้นไป ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย การจดทะเบียนจะมีลักษณะคล้ายจดทะเบียนสมรส ที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องยื่นคำร้องหรือแสดงความยินยอมต่อหน้านายทะเบียน โดยการสิ้นสุดเป็นคู่ชีวิตจะสิ้นสุดในกรณีเสียชีวิต การสมัครใจ เลิกกันหรือศาลพิพากษาให้เพิกถอนการเป็นคู่ชีวิต
นอกจากนี้ยังกำหนดความสัมพันธ์ทรัพย์สินมรดกโดยนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาบังคับใช้ ทั้งนี้ ข้อแตกต่างระหว่างการจดทะเบียนคู่ชีวิต กับการจดทะเบียนสมรส คือ สวัสดิการของภาครัฐที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา จึงยังไม่สามารถครอบคลุมไปยังกฎหมายคู่ชีวิต สิทธิทางการลดหย่อนภาษี และบุตรบุญธรรมสามารถรับเลี้ยงลูก โดยมีกฎหมายที่รองรับอยู่แล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาในรายละเอียดต่อไป