นายกฯ ชี้ ประชาชนเป็นกลไกสำคัญ แจ้งทุจริต อย่ามองช้อปช่วยชาติเป็นการเมือง

07 ธันวาคม 2561, 21:45น.


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า วันที่ 9 ธ.ค.ของทุกปีถือเป็น "วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล" ภาครัฐ ได้ยกเรื่องการปราบปรามการทุจริตให้เป็นวาระเร่งด่วนและวาระแห่งชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นรากฐานสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตที่ยั่งยืนของประเทศ ในส่วนของภาครัฐได้มีการดำเนินการออกแนวนโยบาย และมาตรการต่างๆ ที่ครอบคลุม ตั้งแต่การป้องกัน หรือปลูกฝังแนวคิด การแก้ไขปัญหาและ การลงโทษผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง   โดยพยายามปรับปรุงแนวทางให้เหมาะสมและเท่าทันต่อเหตุการณ์เสมอ ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ เมื่อตรวจสอบเมื่อมีการเห็นการทุจริต ก็ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษให้เกิดการสืบสวน มีการสืบหาวัตถุพยาน พยานบุคคล ตามกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนใหญ่เรามักจะร้องเรียนผ่านทางโซเชียล  มันอาจไม่มีประโยชน์มากนัก ก็คงต้องเข้ากระบวนการ  มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ แจ้งความอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ทุกคนได้ เข้าใจกฎหมายตรงนี้ด้วย ล่าสุด ครม. ได้รับทราบผลการดำเนินการตาม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารงานพัสดุภาครัฐ ที่ออกมาใหม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างความโปร่งใสในธุรกรรมต่าง ๆ ของภาครัฐและ เพิ่มความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในการร่วมงานกับภาครัฐ “ประชาชนทุกคน ยังมีบทบาทในการช่วยเป็นหู เป็นตาช่วยสอดส่อง ดูแล ตักเตือน และแจ้งข้อมูลให้กับภาครัฐ หากเห็นมีพฤติกรรมทุจริตเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม อย่าปล่อยผ่าน ถือว่าไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่เกี่ยวข้องกับเรา ติติงกันอยู่ในโซเชียลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเรื่องเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้หากไม่ได้ถูกหยุด หรือขจัดออกไปด้วยวิธีทางกฎหมายที่ถูกต้อง ก็อาจสั่งสม จนบานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ได้ยากในที่สุด เหมือนหลายๆปัญหาที่ผ่านมาในวันนี้ นอกจากนี้ การละเลยที่จะตักเตือน ว่ากล่าวหรือแจ้งข่าว ในพฤติกรรมทุจริตของเราในวันนี้ ก็อาจกลายเป็นการปลูกฝังการยอมรับเรื่องเหล่านี้ให้กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของเราต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ รัฐบาลมีมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีเพื่อ ลดภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นประจำทุกปีของพี่น้องประชาชน จำได้หรือไม่ปีก่อนๆที่ผ่านมาก็มีเช่นนี้นั่นแหละ อย่ามองว่าเป็นเรื่องของการเมืองเลย และใครที่ไม่มีสิทธิตรงนี้ ก็ไม่ต้องไปซื้อขนาดนั้นเพื่อจะต้องการลดภาษี ตนคิดว่าคงไม่มีใครทำแบบนั้นอย่าไปฟังคำบิดเบือน นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนตรงนี้แล้ว เรายังช่วยส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วย ในประเทศโดยรวม สินค้าเราก็ได้กำหนดไว้เพียง 3 ประเภท ด้วยกัน ได้แก่ 1.สินค้าประเภทยางล้อรถยนต์รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน   2.สินค้าประเภทหนังสือ และอี-บุ๊ก เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน  และ 3. สินค้าโอทอป ซึ่งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนโดยตรง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ว่า  กลไกในการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จึงจำเป็นต้องมีในทุกระดับตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งในระดับพื้นที่ ก็จะมีทีมขับเคลื่อนฯ ระดับตำบล  ทีมผู้ดูแลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทีมหมอประชารัฐสุขใจทีมปฏิบัติการกระทรวงเกษตร ทีมคณะกรรมการหมู่บ้าน รวมทั้ง คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ทั้งหมด จำนวน 4 ครั้ง ครอบคลุม 76 จังหวัด และกทม. หรือกว่า 8.2 หมื่นหมู่บ้าน-ชุมชนทั่วทั้งประเทศ มีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคม จำนวนทั้งสิ้น 8.7 ล้านคนสำหรับสร้างการรับรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน อีกส่วน ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการจะบอกพี่น้องประชาชนก็คือเสียงสะท้อนจากประชาชน โดยการรับฟังปัญหา และความต้องการของประชาชน  ซึ่งก็มีความเชื่อมโยงกับการลงพื้นที่ของตนและคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งด้วย โดยเราพยายามจะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ตนได้รับรายงานประเด็นปัญหา ความต้องการของประชาชน มากกว่า 7 แสนรายการ สามารถแบ่งเป็น 6 ด้านหลักๆ ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มากที่สุดกว่าร้อยละ 52 ด้านการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการเกษตร ด้านความมั่นคง รวมทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการสาธารณสุข นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จากความต้องการของประชาชนทั่วประเทศกว่า 7 แสนรายดังกล่าว รัฐบาลได้นำกลับมาเป็นการบ้านให้ทุกกระทรวงร่วมกันถอดรหัส จัดทำรายละเอียดแผนงานสำคัญ 3 แผนงาน คือ 1. แผนงานเสริมสร้างศักยภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งก็มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ราว 13 ล้านคน จากการลงทะเบียนที่ผ่านมา ที่ครอบคลุมถึงผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง อีกด้วย  โดยดำเนินการใน 4 เรื่อง ได้แก่ การมีงานทำ การฝึกอาชีพ เสริมความรู้ การเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และ การเข้าถึงสิ่งจำเป็นพื้นฐาน  ทั้งนี้ตนหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าแผนงาน  โครงการ ทั้งหลายตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน

ข่าวทั้งหมด

X